ศึกดาร์บี้แมตช์‘เชลซี-ไก่’คาราบาวฯ – ศึกคาราบาว คัพ เดินทางมาถึงนัดแรกของรอบรองชนะเลิศแล้ว ประเดิมด้วยเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เชลซี แชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปฤดูกาลที่แล้ว ต้องเจอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รองแชมป์เก่ารายการนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร แต่เชื่อได้เลยว่าฟาดฟันกันสนุกแน่
วันพุธที่ 5 มกราคม 2565
คาราบาว คัพ อังกฤษ
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เชลซี-ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถ่ายทอดสดทางช่องพีพีทีวี
ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา เชลซีเริ่มต้นจากรอบสาม เปิดบ้านเสมอแอสตัน วิลลา 1-1 โดยเชลซีได้ประตูจากติโม แวร์เนอร์ ส่วนวิลลาได้จากแคเมรอน อาร์เชอร์ ก่อนที่ เชลซีจะเป็นฝ่ายชนะการดวลจุดโทษ 4-3
รอบสี่ เปิดบ้านเสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 เชลซีได้ประตูจาก ไค ฮาเวิร์ตซ์ ส่วน เซาธ์แฮมป์ตันได้จาก เช อดัมส์ ก่อนที่ เชลซีจะเป็นฝ่ายชนะการดวลจุดโทษ 4-3
รอบก่อนรองชนะเลิศ บุกชนะเบรนต์ ฟอร์ด 2-0 เชลซีได้ประตูจาก ปอนตุส ยานส์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง), จอร์จินโญ (จุดโทษ)
ด้านสเปอร์เริ่มจากรอบสาม ไปเยือน เสมอวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-2 ฝั่งสเปอร์ได้ประตูจาก ตองกีย์ เอ็นดองเบเล, แฮร์รี เคน ส่วนวูล์ฟแฮมป์ตันได้จาก เลอันเดอร์ เดนดองก์เกอร์, ดาเนียล โปเดนเซ ก่อนที่ สเปอร์จะเป็นฝ่ายชนะการดวลจุดโทษ 3-2
รอบสี่ บุกชนะเบิร์นลีย์ 1-0 สเปอร์ได้ประตูชัย จาก ลูคัส มูรา
รอบก่อนรองชนะเลิศ เปิดบ้านชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 สเปอร์ได้ประตูจาก สตีเฟน เบิร์กไวน์, ลูคัส มูรา ส่วนเวสต์แฮมได้จาก จาร์รอด โบเวน
สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกล่าสุด เชลซีลงเตะ 21 นัด ชนะ 12 เสมอ 7 แพ้ 2 เก็บไป 43 คะแนน รั้งรองจ่าฝูง ด้านสเปอร์แข่ง 18 นัด ชนะ 10 เสมอ 3 แพ้ 5 มีอยู่ 33 คะแนน อยู่อันดับ 6
สำรวจฟอร์ม 5 นัดหลังรวมทุกรายการ เชลซีเสมอวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-0 (พรีเมียร์ลีก-เยือน), ชนะเบรนต์ฟอร์ด 2-0 (คาราบาว คัพ-เยือน), ชนะแอสตัน วิลลา 3-1 (พรีเมียร์ลีก-เยือน), เสมอไบรตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก-เหย้า), เสมอลิเวอร์พูล 2-2 (พรีเมียร์ลีก-เหย้า)
ด้านสเปอร์เสมอลิเวอร์พูล 2-2 (พรีเมียร์ลีก-เหย้า), ชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (คาราบาว คัพ-เหย้า), ชนะคริสตัล พาเลซ 3-0 (พรีเมียร์ลีก-เหย้า), เสมอเซาธ์ แฮมป์ตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก-เยือน), ชนะวัตฟอร์ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก-เยือน)
คู่นี้เคยเจอกันมาทั้งหมด 170 ครั้ง รวมทุกรายการ เชลซีชนะ 74 นัด เสมอกัน 41 นัด สเปอร์ชนะ 55 นัด หนล่าสุดเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่เจอกันหนแรกในฤดูกาลนี้ สเปอร์แพ้คาบ้าน 0-3
ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เชลซีได้แชมป์มาแล้ว 5 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนสเปอร์เคยได้แชมป์ 4 สมัย ฤดูกาลก่อนจบตำแหน่งรองแชมป์
ความพร้อมนัดนี้ เชลซีจะขาด แอนเดรียส คริสเตนเซน, รีซ เจมส์, เบน ชิลเวลล์, รูเบน ลอฟตัส-ชีก มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ โรเมลู ลูกากู น่าจะถูกตัดชื่อจากทีมต่อหลังให้สัมภาษณ์ วิจารณ์ต้นสังกัด และต้องเช็กความฟิต ติโม แวร์เนอร์
ด้านสเปอร์ไม่มี คริสเตียน โรเมโร, สตีเฟน เบิร์กไวน์, ไรอัน เซสแซญง บาดเจ็บทั้งหมด
คาดว่าเจ้าบ้านน่าจะใช้ระบบ 3-4-2-1 เกปา อาร์ริซาบาลากา : เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, ติอาโก ซิลวา, มาล็อง ซาร์ : ซาเวียร์ ไซมอนส์, มาเตโอ โควาชิช, ซาอูล ญิเกซ, มาร์กอส อลอนโซ : คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซิเยช : ไค ฮาเวิร์ตซ์
ขณะที่ทีมเยือนคงวางแผน 3-4-2-1 อูโก โยริส : ดาบินสัน ซานเชซ, เอริก ดายเออร์, เบนจามิน เดวิส : แมตต์ โดเฮอร์ตี, แฮร์รี วิงส์, โอลิเวอร์ สคิปป์, เซร์คิโอ เรกิลอน : โจวานี โล เชลโซ, เดเล อัลลี : แฮร์รี เคน
เชลซีช่วงหลังฟอร์มตะกุกตะกักอยู่บ้าง ขณะที่ สเปอร์ถือว่าเล่นได้ดี ความมั่นใจจึงน่าจะต่างกัน อยู่สักหน่อย มองแล้วมีแววว่าเกมนี้อาจจบเจ๊า กันไปก่อน
นักเตะที่น่าจับตาประจำเกมนี้
เชลซี : ไค ฮาเวิร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมนี ฤดูกาลนี้ ได้ลงเล่น 21 นัดรวมทุกรายการ ยิงไป 4 ประตู นับเฉพาะ คาราบาว คัพ ลงเล่นไป 1 นัด ยิงได้ 1 ประตู ปัจจุบันโดนจับโยก มายืนศูนย์หน้าตัวเป้าบ่อยครั้ง และในภาวะที่ทีมขาดแคลน ตัวเลือก เจ้าตัวก็น่าจะได้สตาร์ตตัวจริงเกมนี้
ฮาเวิร์ตซ์วัย 22 ปี ย้ายจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาอยู่เชลซี เมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัวสูงถึง 62 ล้านปอนด์ แม้จะโดนค่อนขอดว่าไม่ใช่กองหน้าที่ฝากความหวังเรื่องจบสกอร์ แต่อย่างน้อย เจ้าตัวก็เป็นคนซัดประตูชัยในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาลที่แล้ว พาต้นสังกัดผงาดแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
สเปอร์ : แฮร์รี เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ฤดูกาลนี้ เล่นให้ต้นสังกัดรวมทุกรายการ 25 นัด ยิงได้ 11 ประตู เฉพาะคาราบาว คัพ ลงเล่นไป 3 นัด ยิงได้ 1 ประตู ไม่ว่าอย่างไร สเปอร์ก็ขาดแข้งรายนี้ในแนวรุกไม่ได้เลย
เคนวัย 28 ปี เป็นผลผลิตจากระบบเยาวชนของสเปอร์ หลังถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปเสริมกระดูกอยู่หลายฤดูกาล แข้งรายนี้ก็ก้าวขึ้นมายึดตัวจริงของทีมชุดใหญ่อย่างมั่นคง ตอนนี้ก้าวไกลไปถึงเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ พาทีมได้รองแชมป์ ยูโร 2020 เมื่อปีที่แล้ว
ผู้จัดการทีม
เชลซี : โธมัส ทูเคิล (เยอรมนี) กลายเป็นกุนซือมือเทพ หลังเข้ามาคุมเชลซีกลางฤดูกาลก่อน แล้วนำทีมผงาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ต่อด้วยแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ รวมถึงยังได้รองแชมป์เอฟเอ คัพ
ทูเคิลวัย 48 ปี มีชื่อเสียงจากการมาเป็นกุนซือไมนซ์ จากนั้น โยกไปคุมโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งเจ้าตัวมีแชมป์ติดไม้ติดมือพอสมควร แต่ไม่ได้รับการยอมรับเท่าไหร่ กระทั่งผลงานกับเชลซีทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่ากุนซือรายนี้คือของจริง
สเปอร์ : อันโตนิโอ คอนเต (อิตาลี) โด่งดังมาตั้งแต่สมัย ยังเป็นนักเตะ ด้วยการค้าแข้งกับยูเวนตุสมาอย่างยาวนาน รวมถึงยังติดทีมชาติอิตาลีไป 20 นัด เมื่อหันเหสู่งานกุนซือ ก็กลายเป็นโดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
คอนเตวัย 52 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสอนหลังคุมบารี คว้าแชมป์เซเรีย บี แต่มาโด่งดังที่สุดสมัยคุมยูเวนตุสปี 2011-14 เมื่อเจ้าตัวพาทีมผงาดแชมป์เซเรีย อา ทุกฤดูกาล นอกจากนี้ ยังเคยคุมทีมชาติอิตาลี และอินเตอร์ มิลาน รวมถึงยังเคยนำเชลซี ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว
