สถานีนมแพะ@ศุภกิจฟาร์ม – ในวงการปศุสัตว์ เป็นที่ทราบกันดีว่าภาคใต้เลี้ยงแพะในปริมาณมากที่สุด ถ้าเทียบกับภาคอื่นๆ ในบ้านเรา เพราะเป็นสัตว์ที่นำมาใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ฉะนั้นจะเห็นฟาร์มเลี้ยงแพะอยู่ทั่วไปทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เพราะใช่เพียงขายในประเทศเท่านั้น บางส่วนยังส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอื่นๆ ด้วย

วันก่อนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำโดยรศ.ดร.สุชน ตั้งทวีวิพัฒน์ ประธานคณะทำงานดำเนินการขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านสัตว์เศรษฐกิจ : ยกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ และคณะทำงานลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมการวิจัย

ภายใต้แผนงานวิจัย พัฒนา และขับเคลื่อนการเลี้ยงแพะภาคใต้ พ.ศ. 2563-2565 ของคณะนักวิจัย คณะทรัพยากรธรรมชาติ แห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือม.อ. ที่มีผศ.ดร.ไชยวรรณ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.อ. เป็นผู้อำนวยการชุดโครงการวิจัยนี้ ได้นำผู้สื่อข่าวลงไปดูชูช่วยฟาร์มสถานีนมแพะ@ศุภกิจฟาร์ม ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งทางม.อ.ให้คำปรึกษาในการเลี้ยงแพะนม และนำนมมาแปรรูปทำผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายชนิด

‘คุณศุภกิจ ชูช่วย’ หนุ่มหล่ออายุ 25 ปี เจ้าของชูช่วยฟาร์มฯ เล่าที่มาที่ไปของฟาร์มนี้ให้ฟังว่า ฟาร์มนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ เป็นพื้นที่ในการเลี้ยงแพะและปลูกบ้านเรือนอยู่ที่นี่ด้วย มีแพะทั้งหมด 150 ตัว มีหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ พันธุ์ลูกผสมบอร์แองโกล แองโกลนูเบียน, ซาแนน, อัลไพน์, ทอกเก็นเบอร์ก และชามี่ ฯลฯ

ซึ่งแต่เดิมฟาร์มนี้เลี้ยงแพะเนื้อลูกผสม ปีหนึ่งจะขายได้แค่ 2-3 ครั้ง เป็นการขายสายพันธุ์และขายเนื้อ แต่พอตนมาทำฟาร์มอย่างจริงจังเมื่อ 3 ปีก่อน หลังเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไสใหญ่ สาขาสัตวศาสตร์ เน้นเลี้ยงแพะนมมากขึ้นให้ถึง 100% โดยจะหยุดเลี้ยงแพะผสมไปเลย เพราะมองว่าแพะนมจะได้ปริมาณน้ำนมเป็นมูลค่าเฉลี่ยได้เป็นรายวัน เฉลี่ยแล้วจะได้เงินมากกว่าแพะเนื้อ อีกอย่างแพะนมสามารถขายลูกได้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย

ตอนนี้รีดนมอยู่ 20 แม่ เฉลี่ยวันหนึ่งรีดนมได้ประมาณ 30 กว่าก.ก. เป็นแพะสาวท้องแรกเสียเยอะ ปริมาณน้ำนมจึงได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ทางฟาร์มจะนำมาแปรรูปเป็นนมพาสเจอไรซ์ โยเกิร์ต โลชั่น สบู่ ครีมอาบน้ำ ใช้ชื่อแบรนด์ ‘ซาแนน’ ซึ่งเป็นพันธุ์แพะนมที่เป็น ‘ราชินีแพะนม’ และในอนาคตอันใกล้ตั้งเป้าทำเป็นเซรั่ม ลิปปาล์ม และครีมบำรุง เพื่อจะนำเสนอสินค้าชูคุณภาพน้ำนมแพะให้โดดเด่นมากกว่านี้

สำหรับน้ำนมแพะมีรายได้ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 บาท ถ้าขายผลิตภัณฑ์ด้วยปีหนึ่ง มีรายได้ประมาณ 6-7 แสน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการเลี้ยงด้วยว่ามีจำนวนมากหรือน้อยแค่ไหน

คุณศุภกิจบอกว่า ทางอาจารย์ม.อ.มาให้คำแนะนำในเรื่องของอาหาร และคุณภาพน้ำนม เมื่อก่อนคุณภาพน้ำนมยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ดีมาก อาจารย์เลยเปลี่ยนสูตรอาหารให้ ในส่วนแหล่งอาหารหยาบ จะปลูกเองอย่างพวกหญ้าเนเปียร์ ข้าวโพดสับ หญ้าขน และหญ้ารูซี่ ปรับเปลี่ยนกันไป นอกจากนี้ก็มีทางปาล์มสับ มีใบกล้วย และต้นกล้วยสับ

คุณศุภกิจแจกแจงถึงตลาดน้ำนมดิบว่า ขายให้กับฟาร์มที่จ.ยะลา ปัตตานี และภูเก็ต โดยลูกค้าไปทำแบรนด์เอง อีกส่วนหนึ่งทำเป็นนมพาสเจอไรซ์ของฟาร์ม เพื่อขายให้กับผู้ที่ชอบดื่มนมแพะ ซึ่งขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก” สถานีนมแพะ by ศุภกิจฟาร์ม” และไปขายที่ตลาดใต้โหนด จ.พัทลุง ต่อไปวางแผนจะทำเป็นโรงนมพาสเจอไรซ์ที่ได้มาตรฐาน GMP

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาดื่มนมแพะกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ในหลายพื้นที่ยังหาซื้อได้ไม่ยาก อย่างที่คุณศุภกิจระบุว่า น้ำนมแพะดีแน่นอน 100% เพราะเทียบเท่าน้ำนมแม่เลย แล้วช่วยในการย่อยง่าย เด็กๆ ทานได้ผู้สูงอายุก็ทานโอเค ก็มีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะน้ำนมดิบไม่พอขายเลย เพราะมีตลาดรับไปทำเป็นแบรนด์ของลูกค้าเองด้วย ขณะที่ทางฟาร์มเน้นผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ เพื่อต่อยอดให้ตลาดรุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ นมแพะถ้าไม่สะอาด ตลาดจะหยุดนิ่งไปเลย หากกลิ่นไม่ดี รสชาติไม่ดี คุณภาพไม่ดีคนจะไม่ซื้อต่อเนื่อง

เขาอธิบายถึงวิธีการที่ทำให้นมแพะไม่มีกลิ่นคาวว่า หลักๆ เลยเป็นความสะอาดของโรงเรือน และความสะอาดตอนรีดนม วัตถุดิบอาหารก็สำคัญที่ฟาร์มจะผสมอาหารเอง โดยเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ

มีมันเส้น รำข้าว มีข้าวโพดบด และถั่วเหลืองอบ ให้แพะกินดี อยู่ดี ผลตอบแทนก็จะได้เยอะ

ส่วนปัญหาอุปสรรคของการเลี้ยงแพะ คุณศุภกิจบอกว่า ภาคใต้เป็นพื้นที่ร้อนชื้น จะเจอเป็นหวัดและโรคปอด วิธีแก้ปัญหาคือ การทำให้แพะมีสุขภาพดี กินอาหารข้นดี กินอาหารหยาบดี ภูมิคุ้มกันดี อยู่สบายโรคก็ทำอะไรไม่ได้

ในฟาร์มแห่งนี้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อให้ผู้คนมาศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงแพะนม และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย โดยนำลูกแพะมาไว้ 4-5 ตัว เพื่อให้ผู้มาเยือนนำขวดนมมาป้อนเจ้าแพะน้อยเหล่านี้ ซึ่งพวกมันกินแป๊บเดียวก็หมดขวด และยังนำลูกแพะตัวน้อยไปโชว์ที่ตลาดใต้โหนดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันป้อนหญ้าป้อนนมด้วย

นับเป็นเกษตรกรหนุ่มอีกรายที่มีอนาคตสดใส เพราะนอกจากจะเลี้ยงแพะนมคุณภาพแล้ว ยังนำน้ำนมดิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สำคัญยังขายเองด้วย ซึ่งใครไปเยี่ยมฟาร์มแห่งนี้ต่างชอบใจซื้อติดไม้ติดมือกลับ ไปด้วย

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน