แบงก์ชาติจับตา4สะดุดรั้งเศรษฐกิจไทยแบงก์ชาติเผยไทยเสี่ยง 4 สะดุดฉุดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว ลุ้นโควิดไม่ระบาดหนักรั้งท่องเที่ยว ยืนยันเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ แม้ราคาสินค้าบางชนิดจะปรับตัวสูงขึ้น ไม่เสี่ยงเข้าภาวะ stagflation

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ยังมีความ เปราะบาง ฟื้นได้ไม่เร็ว และช้ากว่าเพื่อนบ้าน คาดว่าจะกลับมา ฟื้นตัวในระดับปกติช่วงไตรมาส 1/2566 ดังนั้น โจทย์หลักของ ธปท. คือ ทำอย่างไรให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด และห้ามสะดุด

โดยปี 2565 มีความเสี่ยงที่จะสะดุดอยู่ 4 เรื่องคือ 1.การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะโอมิครอน ที่ต้องจบให้ไวภายในครึ่งปีแรก และไม่มีสายพันธุ์อื่นระบาดอีก เพื่อให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว มีนักท่องเที่ยวเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ที่ 5.6 ล้านคน โดยในกรณีที่เลวร้าย จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงทุกๆ 1 ล้านคน จะกระทบกับจีดีพีลดลง 0.3-0.4%

“ธปท.เตรียมความพร้อม เครื่องมือ หรือมาตรการเพียงพอที่จะรองรับหากเกิดเหตุการณ์ยืดเยื้อ เราจะทำอย่างไรก็ได้ให้ระบบสถาบันการเงินทำงานได้ใกล้เคียงปกติที่สุด อย่าให้อยู่ดีๆ มีการตึงตัวของ สินเชื่อจนเร็วเกินไป ที่ผ่านมาเราทำได้ดี ทั้งในส่วนของสินเชื่อฟื้นฟู มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการรวมหนี้”

เรื่องที่ 2.อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าครองชีพขึ้นแต่รายได้ไม่ขึ้น แม้เงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นในเชิงมหภาคไม่ได้น่ากลัวเหมือน ต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ของไทยค่อยๆ ปรับขึ้น ตัวเลขเงินเฟ้อปีนี้ที่ 1.7% ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะต้องมีการปรับเพราะยังอยู่ในกรอบ 1-3% ขณะที่ราคาสินค้าขึ้นไม่ได้ขึ้นเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่ขึ้น เป็นจุด ไม่ได้แพร่กระจาย เช่น ราคาพลังงาน ราคาหมู ขณะที่เงินเฟ้อระลอก 2 ยังไม่เห็น เพราะภาพเศรษฐกิจ การจ้างงาน ค่าแรงยังไม่ขึ้น แต่ ธปท. ก็ไม่ได้ชะล่าใจ หากเงินเฟ้อส่งสัญญาณเพิ่มเป็นวงกว้าง ก็ต้องมีมาตรการรองรับ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวร่วมกับเงินเฟ้อสูง (Stagflation) โดยไทยเงินเฟ้อยังต่ำ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะ ขยายตัว 3.4% ก็ไม่ได้เป็นการเติบโตที่เลวร้ายอะไร ส่วนเงินเฟ้อปี 2566 อยู่ที่ 1.4% จีดีพีปีหน้าโตเกือบ 4% จากฐานต่ำและการฟื้นตัวของท่องเที่ยว

เรื่องที่ 3.การเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่แนวโน้มค่อยๆ เพิ่ม แต่มีมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เกิดการสะดุด โดยเฉพาะโครงการปรับโครงสร้างหนี้ที่ดำเนินการไปแล้ว และเรื่องที่ 4.สถานการณ์ โลก หลายประเทศมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว และโอกาสที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว แต่ก็ไม่น่าจะเพียงพอที่ทำให้เศรษฐกิจไทยสะดุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน