เย้ยนโยบาย‘ตู่’ทำให้จนแล้วแจก – เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การเมืองในปี 2565 เชื่อว่าคงร้อนแรง ปัจจัยมาจากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปล่อยให้เจ้าสัวปรับขึ้นราคาสินค้า ไร้มาตรการควบคุม ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแสนสาหัส ที่น่าละอายใจ คือการจงใจปกปิดข้อมูลการระบาดของโรค อหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้หมูตายจำนวนมาก คาดกันว่าอาจมากถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนหมูในประเทศเลย
กรมปศุสัตว์ออกมายอมรับว่าราคาหมูจะแพงไป 1 ปี สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก ทั้งๆ ที่รัฐบาลรับทราบมาตั้งแต่ปี 2562 ว่าตรวจพบเจอโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู แต่รัฐบาลกลับ ไม่ยอมรับ ที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านแสดงความห่วงใยมาตลอดถึงแนวทางแก้ปัญหา เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงรับผิดชอบ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องเกษตรกรและประชาชน รวมทั้งสร้างภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนอีกมาก
“จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ค่าไฟฟ้าและก๊าซที่กำลังจะปรับตัวสูงขึ้น ไปจนถึงค่าทางด่วน เวลานี้ประชาชนทั้งประเทศต้องรับกรรม เพราะสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน นโยบายหลักของรัฐบาลคือทำให้จนแล้วแจก รัฐบาลโคตรประชานิยม ทุกโครงการมุ่งแต่หาเสียง งบประมาณมหาศาลแต่ไร้ผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ไม่อายตัวเองควรเกรงใจประชาชนบ้าง อย่าหวังแต่กอดอำนาจบนความลำบากของประชาชนต่อไปอีกเลย” นายสงครามกล่าว
ด้านนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องสินค้าทุกอย่างขึ้นราคา ค่าแรงก็ควรขยับขึ้นให้บ้างว่าต้องหาเงินมาให้ได้ รัฐบาลจะต้องมีเงินก่อนนั้น ตนเห็นว่านโยบายการเพิ่มค่าแรงเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยหาเสียงไว้ตั้งแต่ก่อนมีการเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้จริง เพราะไม่รู้จักวิธีหาเงิน 7 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ หาเงินเป็นแค่วิธีการเก็บภาษีประชาชน และการเพิ่มภาษีประชาชน โดยไม่สนว่าวันนี้ประชาชนในประเทศ ก็แทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว
ประเทศไทยมีของดีมากมาย ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องการเกษตร และยังเป็นฐานการผลิตสินค้าอีกมากมาย มีมูลค่าการ ส่งออกจำนวนมาก แต่ผู้บริหารกลับมองไม่เห็นศักยภาพของประเทศ จนปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านแซงไปเกือบหมด แม้กระทั่งเรื่องแผนการฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้อันดับ 1 ของประเทศ ก็ไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการ จะเปิดก็ไม่เปิด จะปิดก็ไม่ปิด วัคซีนดีๆ ที่มีประสิทธิภาพอย่าง mRNA ก็นำเข้ามาช้า กว่าจะเข้ามาเศรษฐกิจก็เสียหายจำนวนมากแล้ว
“หาก 7 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ท่านยังไม่รู้จักเรียนรู้จากความ ผิดพลาด ยังไม่รู้จักวิธีการหาเงินเข้าประเทศ ขอเรียกร้องให้ลาออก หรือยุบสภา เพราะท่านยิ่งอยู่ ท่านก็ยิ่งกู้ ประเทศก็ยิ่งเป็นหนี้ จึงควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกบุคคลอื่นมาบริหารประเทศแทน ส่วนพรรคไทยสร้างไทยได้มีแผนการหาเงินเข้าประเทศ ระยะสั้น-กลาง-ยาว และแผนการเยียวยาพี่น้องประชาชนแล้ว เมื่อถึงเวลาที่พร้อม จะนำเสนอนโยบายหาเสียงต่อประชาชน” นายตรีรัตน์กล่าว
