‘วี’นิ่งขึ้น-เลิกโหยหารัก มีเป้าหมายอื่นที่ต้องโฟกัส

‘วี’นิ่งขึ้น-เลิกโหยหารัก มีเป้าหมายอื่นที่ต้องโฟกัส – จากงานแสดงเบื้องหน้า ผันสู่งานเบื้องหลัง ผลิตละครในนามบริษัท มากกว่าฝัน จำกัด สำหรับอดีตพระเอกดังวัย 41 ปี ‘วี’ วีรภาพ สุภาพไพบูลย์
ล่าสุดมีผลงานละคร “นางสาวส้มหล่น” ทางช่อง 7 HD ที่เจ้าตัวรั้งตำแหน่งทั้งผู้จัดและผู้กำกับฯ
วันนี้หนุ่มวีได้เจียดเวลามาพูดคุยถึงเรื่องงานและความรัก ที่สมัยก่อนเรียกว่าเจ้าชู้ตัวพ่อทำไมหยิบละคร “นางสาวส้มหล่น” มาทำ?
วี – “อย่างแรกเป็นละครที่ใกล้ตัว ผมเคยเล่นละครเรื่องนี้เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เวอร์ชั่นนั้น ผมเล่นคู่กับ น้องปู (ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก) เป็นละครที่สนุกได้รับความนิยมดีทีเดียว ผมเลยคิดว่า ถ้าเรานำกลับมาทำในยุคนี้น่าจะสนุก ซึ่งเราก็ได้นำมาปรับ รีเมกให้เข้ากับยุคสมัย อีกอย่าง เรื่องนี้ผมเป็นผู้กำกับฯ เองด้วย นางสาวส้มหล่นเป็นละครที่ผมคิดถึงและอยากนำกลับมาทำ ก็เลยตัดสินใจทำครับ”การทำงานยากไหม ในภาวะโควิด?
วี – “สถานการณ์โควิด ระหว่างที่เราทำงาน ต้องหยุดพักกองนานกว่า 5 เดือน มันทำให้ละครขาดความต่อเนื่องหลายๆ อย่าง อย่าง นักแสดงหลัก น้องแก้ม (กวินตรา โพธิจักร) กับ น้องเตย (กัญญกร พินิจ) ตั้งครรภ์ในช่วงโควิดพอดี เราก็ต้องมาปรับบท เพื่อเซฟน้องทั้ง 2 คนมากที่สุด และระหว่างการถ่ายทำ ทางกองก็ดำเนินการตามมาตรการตลอด เราเคร่งครัดมากในเรื่องความปลอดภัย ช่วงที่ถ่ายทำก่อนจะพักกอง เราเก็บไปได้มากกว่า 80% ถือว่าค่อนข้างโชคดี จังหวะการทำงานไม่สะดุดมากนัก”
“ก็อยากให้ทุกคนติดตามชมละคร นางสาวส้มหล่น ใครที่เคยเป็นแฟนละครเรื่องนี้ตั้งแต่เวอร์ชั่นก่อน อยากให้ลองมาชมเวอร์ชั่นนี้ ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7HD กด 35”แฟนๆ หลายคนคิดถึงภาพของวี ในฐานะนักแสดง อยากเห็นวีกลับมาเล่นละครเต็มตัวอีก มีโอกาสไหม?
วี – “จริงๆ อย่างที่ผ่านมา ผมมีไปเล่นรับเชิญให้ค่าย พี่เวอร์ (โอริเวอร์ บีเวอร์) อยู่นะครับ เล่นเป็นตัวร้ายในละคร ล่า ท้า ชน อาจจะ 3 ตอน 5 ตอน แต่ถ้าเล่นเต็มตัวคงต้องดูความเหมาะสม รวมถึงบทที่ผมอยากเล่น ด้วยวัยด้วย บทน่าจะต้องเป็นผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายมองกันที่เรื่องเวลา มันน่าจะไม่ได้จริงๆ เพราะด้วยงานกำกับฯ ผมทำงานเต็มสัปดาห์เลย 3-4 วันต้องไปออกกอง ส่วนวันที่เหลือเข้ามาประชุมเตรียมงาน คือละครผมก็อยากเล่นนะ แต่ต้องดูองค์ประกอบรวมทุกอย่าง”ตอนนี้นักแสดงรุ่นน้องมองวีเป็นไอดอลของการทำงาน รู้สึกอย่างไร?
วี – “ผมไม่อยากใช้คำว่า ไอดอลเลย อยากให้ทุกคนมีทางของตัวเองดีกว่า สิ่งสำคัญคือน้องๆ ต้องคิดก่อนว่า รักที่จะมาทางนี้ไหม บางคนอาจจะชอบแสดง แต่ไม่ได้อยากมาเป็นผู้จัด หรือ ผู้กำกับฯ ผมว่าแต่ละคนต้องรู้ความต้องการของตัวเองก่อน”
“ตัวผมเริ่มต้นจากความอยาก อยากจะเป็นผู้จัด และพอรู้ว่าเราอยากทำตรงนี้ ผมก็เริ่มมาเปิดบริษัท มากกว่าฝัน กับ คุณกีต้าร์ (ศิริพิชญ์ วิมลโนช) ซึ่งตอนนั้นผมอายุประมาณ 30 กลางๆ แล้ว ณ ตอนนี้ ผมมองว่าบริษัทก็อยู่ในจุดที่พอใจครับ”หันมาที่เรื่องความรักบ้าง เมื่อก่อนถูกมองว่าเจ้าชู้ตัวพ่อ แล้วในวันนี้ความรักเป็นอย่างไร?
วี – “คือตอนนี้วัยผมเข้าเลข 4 แล้ว ความรักตอนนี้ก็มีคนที่คุยๆ อยู่ แต่ด้วยสถานการณ์ทั้งโควิดและหลายๆ อย่าง ทำให้ไม่ได้สวีตจี๋จ๋า คือเรื่อยๆ เพราะตอนนี้เราไม่ได้หวือหวา ไม่ได้โลดโผนเรื่องความรักเหมือนสมัยก่อน สำหรับผม ผมว่าผมนิ่งขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น คือพอมีเรื่องงาน มีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องโฟกัสจริงจัง มันก็ทำให้เรื่องความรักค่อนข้างนิ่ง ต่างจากเมื่อก่อนที่วีรภาพจะต้องมีแฟนตลอดเวลา โหยหาความรักแบบคู่รักมาก รู้สึกว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ช่วงโควิดที่เกิดขึ้น เรากลับมองเห็นว่าเราอยู่คนเดียวได้ ไม่ใช่อยู่ไม่ได้ และคนที่คุยด้วย เขาก็เป็นแบบเพื่อนคู่คิดอะไรแบบนี้”มีคิดเรื่องการวางแผนครอบครัวบ้างไหม?
วี – “มีสิครับ วัยผมตอนนี้เพื่อนๆ ผมส่วนมากแต่งงานกันไปหมดแล้ว บางคนมีลูกแล้ว แต่เรื่องการมีลูกผมอาจจะยังไม่ได้คิด ผมรู้สึกว่าสังคมสมัยนี้ การจะมีลูกต้องพร้อมมากๆ เพราะโลกเปลี่ยนไปเยอะมาก ผมก็ดูจากเพื่อนๆ นี่ล่ะ หลายคนบอกว่าลูกคนเดียวพอแล้ว หรือไม่ บางคนก็เลือกที่จะไม่มีลูกเพราะก็คงกังวลแหละ อย่างตอนนี้มีโรคระบาด แล้วอนาคตข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรอีก ก็จะคิดเยอะนิดหนึ่ง”
“คำว่าวางแผนครอบครัวของผม คือเรื่องการใช้ชีวิตคู่มากกว่า ถ้าโอเคในชีวิตคู่แล้วอนาคตอยากจะมีลูกค่อยคิดตอนนั้นอีกที แต่ไม่ใช่เป็นแผน อีก 2 ปีจะแต่งงาน คือเรามองเป็นสเต็ปๆ ไป อย่างคนที่คุยอยู่ตอนนี้เรายังต้องศึกษา คุยกันในแบบของผู้ใหญ่ด้วยกัน”ณ วันนี้มองว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง?
วี – “ประสบความสำเร็จครับ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองล้มเหลวนะ แต่ในความสำเร็จก็จะเป็นขั้นๆ มีขั้น 1 2 3 ไปเรื่อยๆ เพราะถ้าคิดแค่ว่าประสบความสำเร็จแล้ว เราก็จะไม่พัฒนาตนเอง สำหรับผม เป้าหมายใหม่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ”