‘พลอยชมพู’พิสูจน์ฝีมือ ประสบการณ์ชีวิตสอนให้โต – ต้องฝ่ามรสุมลูกใหญ่ กว่าจะคลอดเพลงใหม่ล่าสุด “LOCATION” ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน สำหรับนักร้องสาว ‘พลอยชมพู’ ญานนีน ไวเกล
โดยวันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจถึงมรสุมที่ว่า รวมถึงการทำงานเพลง “LOCATION” ที่ ฟีเจอริ่งกับหนุ่ม ‘พร้อม ราชภัทร’ หรือ ANOTHERBOYTJ
เพลง Location ที่ปล่อยใน YouTube เป็นอย่างไรบ้าง?
พลอยชมพู – “ผลตอบรับดีมากค่ะ มันเกินที่เราคาดหมาย อย่างวันแรกยอดวิว 4-5 แสนวิวเลย แล้วแค่ชั่วโมงแรกคอมเมนต์ก็มาเป็น 1,000 คอมเมนต์ รู้สึกว่าหลายเดือนที่ผ่านมาที่เราเหนื่อยมาเยอะ พอเห็นฟีดแบ็กแล้วมันทำให้ชื่นใจ หายเหนื่อยค่ะ”
เห็นว่าเพลงนี้เราทุ่มเททุ่มทุนหมด หน้าตัก?
พลอยชมพู – “คือเพลงนี้เริ่มต้นทำหลังสิ้นสุดสัญญากับค่ายเก่าที่มาเลเซีย เราอยากกลับมาทำเพลงเอง แล้วก็เป็นเพลงไทย ซึ่งเราก็เริ่มแต่งเพลงนี้ จริงๆ ตอนแรกที่เริ่มทำโปรเจ็กต์นี้ แม้แต่ตัวเพลงเองเราก็ยังเครียดเลยว่าจะหาเงินจากไหนมาทำ ความคาดหวังในการทำซิงเกิลของเรามันต่ำมากๆ เพราะปีสองปีที่ไปอยู่ที่อื่นเราไม่ได้รายได้อะไรเลย พอกลับมามันก็เริ่มต้นจากศูนย์ เลยคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีตังค์เดี๋ยวมันก็หาเงินได้”
“พอเราแต่งเพลงเสร็จปุ๊บ เอาไปให้ โปรดักชั่นที่เขาทำเอ็มวี ครั้งแรกเขาเห็นก็ รู้สึกว่าเพลงดี เขาเลยช่วยหาสปอนเซอร์ให้ ก็เป็นฝั่งคุณแม่ที่หาสปอนเซอร์ แล้วเหมือนว่าทุกคนก็ยินดีจะร่วมงาน กลายเป็นว่า โปรเจ็กต์นี้ใหญ่กว่าที่คาดหวังเอาไว้ ดีใจที่ทุกคนยินดีสนับสนุนและร่วมงานกับเราค่ะ”
“โปรเจ็กต์นี้มันเริ่มต้นจากเงินก้อนเล็กๆ ที่เรามีก้อนสุดท้าย ซึ่งพอเราลงทุนไปมันกลับทวีคูณขึ้นมาเป็นหลายเท่า จากทุนเรามีอยู่แค่ 40,000 บาท กลายเป็นว่างานนี้มีมูลค่า 1.5 ล้านบาท รวมทั้งตัวเพลงแล้วก็ตัวเอ็มวี เป็นอะไรที่เราไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขนาดนี้”
“จากเริ่มต้นที่มีแค่ค่าเพลง แต่เราขายให้แบรนด์ต่างๆ แล้วกลับมีความไว้วางใจในผลงานของเรา ทั้งที่ภาพตอนนั้นยังไม่เริ่มถ่ายอะไรด้วยซ้ำ มีแค่โปรเจ็กต์ให้เขาดู แต่เขายินดีจะร่วมงาน เป็นอะไรที่เหลือเชื่อ ก็ขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนค่ะ”
เนื้อร้องทำนองแต่งเอง?
พลอยชมพู – “เพลง LOCATION แต่งเองคู่กับโปรดิวเซอร์ HYE (ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ) จากวง Paper Planes ตอนนั้นหนูอยู่เยอรมัน เขาส่งบรีฟมาให้ก่อน พอได้บรีฟ หนูก็ลองร้องเมโลดี้ไปสี่แบบ ส่งกลับไปให้เขาไปลองทำเป็นเพลง ดูว่าตรงไหนน่าจะเป็นส่วนของท่อนไหน พอเราได้เมโลดี้ครบทั้งเพลงปุ๊บก็มาใส่เนื้อกันทีหลัง ก็ลองเขียนไปให้เขาดูหลายๆ เวอร์ชั่นว่าอันไหนมันดี ลองปรับแก้คำโน้นคำนี้ ก็ช่วยๆ กันค่ะ”
ดึงตัว พร้อม ราชภัทร (AnotherboyTJ) มาฟีเจอริ่ง ไปถูกอกถูกใจอะไรในตัวเขา?
พลอยชมพู – “คิดไว้นานแล้วว่าหลังสิ้นสุดสัญญา อยากทำเพลงที่มีฟีเจอริ่งด้วย ช่วงนั้นอยู่เยอรมันแล้วว่างมาก ก็เข้าดูผลงานคนอื่นเยอะ ซึ่งเป็นความบังเอิญที่เราเห็นเพลงของ AnotherboyTJ ก็คือ พร้อม ราชภัทร ขึ้นมาพอดี เลยลองกดเข้าไปดู แล้วรู้สึกว่าฟีลเขามีความคล้ายคลึงเรา ดูมีความวัยรุ่น รุ่นราวคราวเดียวกันและมีความสดใส เลยลอง ติดต่อมาร่วมงานดู จริงๆ ตอนแรกเขาไม่เห็นข้อความที่หนูทักไป ผ่านไปหลายเดือน เขาถึงมาเห็น ก็เลยเพิ่งมาคุยกันช่วงที่เริ่มต้นทำเพลงนี้”
“เขาเป็นคนน่ารัก มีสปิริตในการทำงานสูง คือหนูถ่ายเอ็มวีที่กระบี่ หนึ่งวันก่อนหน้าที่เขาจะไปถ่ายเอ็มวี เขาทำงานมาหลายวันติด คือเขาคิวแน่นมาก เพราะถ่ายซีรีส์ด้วย แล้วเขาต้องบินมาที่กระบี่ บินมาถึงปุ๊บก็เริ่มถ่ายเลย แล้วเขาเอ็นเนอร์จีสูงมาก ชวนทุกคนคุยทำให้กองเฮฮา แล้วพอเช้าวันถัดมาเขาต้องกลับไปถ่ายซีรีส์ต่อ เอ็นเนอร์จีล้นเหลือจริงๆ ค่ะ”
พูดถึงเอ็มวี ชุดปังมาก หลากหลายสไตล์ ไอเดียนี้มาจากไหน?
พลอยชมพู – “หนูฟังเพลงนี้แล้วมองเห็นภาพว่ามันเป็นยังไง อยากได้ชุดประมาณไหนก็หารูปให้พี่สไตลิสต์ดู เขาก็ช่วยปรับว่าชุดแบบไหน ที่เข้ากับฉากไหนได้ ก็คุยกันในหลายส่วน มันก็จะมี ในเรื่องสปอนเซอร์ ในเรื่องสินค้าแล้วก็สถานที่ด้วย ต้องดูว่าสถานที่นี้ชุดควรจะเป็นสีอะไรแนวไหน ก็คุยกันเยอะค่ะ”
“แต่ระยะเวลาทำงานค่อนข้างน้อย การเตรียมงานใช้เวลาแค่เดือนเดียวจากที่เริ่มต้นวางแผนจากวันที่ถ่ายเอ็มวีนี้ และในระหว่างนั้นก็มีเรื่องของการเคลียร์ สปอนเซอร์ เวลาของสไตลิสต์ก็ค่อนข้างน้อย นับถือพี่เขาที่สามารถทำงานได้เร็วขนาดนี้ในขณะที่ชุดมาเป็นสิบ แต่สไตลิสต์หลักมีอยู่แค่คนเดียว”
เพลงนี้บ่งบอกถึงความเป็นพลอยชมพูที่โตขึ้นอย่าง 100% ไหม?
พลอยชมพู – “คิดว่าใช่นะคะ เป็นแนวเพลงที่อยากทำมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำแบบจริงๆ จังๆ คือจริงๆ เป็นคนชอบเพลงเร็ว คือเพลงเร็วแนวนี้ ก็น่าจะตอนอายุ 14 ซึ่งนานมากแล้ว ก็เลยอยากทำเพลงที่เป็นตัวตนของเรา บ่งบอกถึงบุคลิกเราจริงๆ อ่ะค่ะ”
ภูมิใจขนาดไหน?
พลอยชมพู – “ภูมิใจมาก มันเหมือนเป็นลูกเรา เราปั้นมันมาตั้งแต่เริ่มต้น เรามีความสุขเราเหนื่อยเราร้องไห้ ในทุกๆ สเต็ปเราอยู่กับมันมาตลอดหลายเดือน แล้ววันนี้มันได้ออกสู่สาธารณะ เราไม่ได้เก็บมันไว้คนเดียวแล้ว ตอนนี้เพลงนี้เป็นของทุกคนไปแล้ว”
ทำเองทุกอย่างขนาดนี้ ยังโดนค่ายเก่าเคลมลิขสิทธิ์?
พลอยชมพู – “หนูยังมีปัญหากับค่ายเก่าอยู่ จริงๆ สัญญาสิ้นสุด ไปแล้ว แต่ทางค่ายเก่าบอกว่าสัญญาหนูยังไม่หมด หนูยังทำเพลงให้เขาไม่ครบตามในสัญญา ซึ่งต่อให้ทำเพลงไม่ครบตามสัญญา ถ้ามันบอกว่าวันที่มันหมดเท่านี้มันก็ควรจะหมด แต่ทีนี้ระหว่างหนูกับเขาไม่สามารถตกลงกันได้ ปัญหาหลักคือถึงแม้สัญญาจะหมดแล้ว แต่เขาก็พยายามจะขัดขวางการทำงานของหนู ไปปิดใน YouTube Streaming ต่างๆ”
“อาชีพหลักหนูคือการเป็นนักร้อง หนูเลยตัดสินใจฟ้องเขา สำนวนฟ้องที่ยื่นไปได้รับการประทับตราจากศาลที่มาเลเซียแล้ว ล่าสุดเพลง LOCATION เขาก็ยังเคลมในสตรีมมิ่ง ตอนนี้ในสตรีมมิ่งต่างๆ ไม่สามารถฟังได้ ฟังได้เฉพาะในยูทูบ”
มันมีผลกระทบต่อเรายังไงบ้าง?
พลอยชมพู – “หลักๆ คือเพลงถูกตัดโอกาสในการเข้าถึงมากขึ้น เรื่องรายได้ด้วย อย่างก่อนเพลง LOCATION ก็มีหลายเพลงที่เขาเคลมไปไม่ต่ำกว่าสามรอบ ซึ่งมันทำให้บัญชีเก่าของหนูถูกระงับรายได้ มาตอนนี้ครึ่งปีแล้วที่หนูยังไม่สามารถถอนรายได้ ซึ่งมันไม่ใช่เพลงที่ถูกระงับ แต่รวมถึงเพลงที่หนูปล่อยกับบัญชีนี้ ต่อให้คนที่ไป ฟังเพลงที่ไม่ได้ถูกเคลม หนูก็ไม่สามารถถอนรายได้จากตรงนั้นได้”
“เหมือนว่ารอให้เคลียร์เรื่องนี้ให้จบก่อนจึงจะปลดเพลงเหล่านี้ได้ ซึ่งหนูรู้สึกว่ามัน ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่เพราะฝั่งโน้นเขาไม่ได้มีเอกสารยืนยันว่าเป็นเจ้าของ เอกสารทุกอย่างอยู่กับหนู ทางสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มเขาก็บอกแค่ว่าต้องจบก่อนเขาถึงปลดเคลมได้”
“แต่หนูดีใจที่ยูทูบยังมีความเป็นกลางตรงที่ว่าเมื่อไหร่ที่ถูกเคลม เขาก็จะขอดูเอกสาร ถ้าไม่มีเอกสารภายใน 14 วัน เขาก็จะปลดเคลมให้ ก็เลยทำให้อย่างน้อยเรายังมีช่องทางตรงนี้ในการเผยแพร่ผลงานของเรา”
เรียกว่าต้องขึ้นโรงขึ้นศาลตั้งแต่อายุ ยังน้อย?
พลอยชมพู – “ก็ไม่คิดว่าชีวิตนี้หนูจะมาขึ้นศาลอะไรกับใคร ในตอนอายุ 20 ต้นๆ ไม่คิดว่าเราจะมีปัญหาเวลาทำเพลงแล้วมีคนมาคอยตามปิดเพลงหรืออะไร แต่ก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตทำให้โตขึ้น ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
เข็ดไหมกับการอยู่ภายใต้สังกัด?
พลอยชมพู – “เข็ดอยู่เหมือนกัน ถ้ามี ค่ายไหนติดต่อมาคงต้องดูดีๆ แต่หนูก็มีเงื่อนไขที่สำคัญ ถ้าค่ายไม่สามารถรับได้ หนูก็คงไม่สามารถทำงานด้วย เพราะเราก็คิดว่าเราสามารถทำงานเองได้”
“การได้ทำงานทุกอย่างเอง ควบคุมและตัดสินใจทุกอย่างเอง มันมีความสุขมากกว่าอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของใคร”
อชริญา บุญชู
