กบง.ปรับสูตรไบโอดีเซลเป็นบี 5ชั่วคราว – กบง.มีมติให้ปรับสูตรไบโอดีเซลจาก บี 7 เป็นบี 5 ชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือน เริ่ม 5 ก.พ.นี้ โดยจะปรับลดสัดส่วนผสมน้ำมันปาล์มเหลือ 5% เพื่อตรึงราคาขายปลีกไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท เดินหน้าเสนอบอร์ดปาล์มแห่งชาติเห็นชอบต่อไป
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง.มีมติเห็นชอบแนวทางการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (บี 100) ประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 10% โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตร ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.-31 มี.ค. 2565
โดยการลดสัดส่วนผสมของไบโอดีเซลลงจะเป็นการดำเนินการระยะสั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ประกอบกับไบโอดีเซล (บี 100) ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) นำเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น ต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เพื่อทราบต่อไป
“ส่วนแนวทางสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในภาวะวิกฤต ในกรณีราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 30 บาทต่อลิตร (โดยไม่มีการชดเชยราคาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง) กบง. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือแนวทางที่เหมาะสมต่อไป”
ส่วนแนวทางราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในภาวะปกติ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ 1.ระยะสั้นปี 2565-2566 กำหนดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 2 เกรด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 และ 2.ระยะยาวปี 2567 เป็นต้นไป กำหนดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 7 เกรดเดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าการกู้เงินเพื่อนำมาชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ขณะนี้มีสถาบันการเงินยื่นเงื่อนไขเงินกู้ 20,000 ล้านบาทเข้ามา 3 ราย ภายใต้กรอบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินกู้ไว้ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีเงินกู้เข้ามาใช้พยุงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ได้ทันตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.นี้
“ยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงนี้ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้มาก ดังนั้นกรณีเลวร้ายสุดราคาน้ำมันขึ้นไปถึง 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล กองทุนอาจต้องชดเชยหรือมีเงินไหลออกประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ทำให้เงินที่มีอยู่ อาจเหลือใช้ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น”
