ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ-พาณิชย์ฟัน116ร้านโก่งราคา

คลังแจงโครงการคนละครึ่งไม่ใช่การแจกเงิน เป็นการ เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนส่งต่อรายย่อย คาดเฟส 4 ช่วยเพิ่มเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 7 หมื่นล้าน ขู่คนไม่ซื้อขายจริง ด้านกรมการค้าภายในฟันร้านโก่งราคา

นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรัฐบาลช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนของสินค้า และบริการ วันละไม่เกิน 150 บาท ต่อคนต่อวัน ไม่ใช่การแจกเงิน เป็นการส่งต่อกำลังซื้อ ให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่แผงลอย ให้มีรายได้ต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมามีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1.3 ล้าน ร้านค้า และประชาชนใช้สิทธิ์กว่า 26 ล้านคน ถือว่าประสบความสำเร็จสามารถเพิ่มเม็ดเงิน 326,000 ล้านบาท ส่วนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ซึ่งเริ่มใช้จ่ายวันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. นั้น จะสามารถเพิ่มเม็ดเงินที่เข้าไปหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก 6.96 หมื่นล้านบาท”

นายพรชัยกล่าวว่า ณ วันที่ 3 ก.พ. มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 11.51 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายรวม 3,782.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 1,913 ล้านบาท และรัฐ ร่วมจ่าย 1,869.9 ล้านบาท ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิ์ระยะ4 แล้ว 22.62 ล้านราย และมีผู้ประกอบการ เข้าร่วมแล้วจำนวน 1.33 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบพบหลักฐานผู้ประกอบการกระทำความผิดเงื่อนไขโครงการในลักษณะไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริง ซึ่งได้ระงับสิทธิ์ผู้ประกอบการดังกล่าว และเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว ขอให้ประชาชนและ ผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวว่า ได้เน้นย้ำไปถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้จำหน่ายสินค้าด้วยราคาที่เป็นธรรม โดยขณะนี้ได้ส่งทีมสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 55 ชุด เพื่อตรวจสอบเข้มในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และภูมิภาค จะมีทีมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดูแล ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุด กับร้านที่โก่งราคาเกินสมควร โดยเฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐ หากพบการขึ้นราคา โก่งราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ยืนยันว่าจะยกเลิกให้เป็นร้านธงฟ้าทันที ซึ่งขณะนี้เพิกถอน ไปแล้ว 116 ร้านค้า จาก 100,000 ร้านค้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน