ซื้อขายโรงแรมไทยทะลุ 1.3 หมื่นล. – โจนส์แลงลาซาลล์ชี้ปี 2564 หลังผ่อนคลาย ต่างชาติเข้าเมืองไทย ทำยอดซื้อขายโรงแรมไทยทะลุ 1.3 หมื่นล้าน สูงสุดรอบ 10 ปี หลังโอมิครอน ไม่รุนแรง ทำนักลงทุนลุ้นการท่องเที่ยวฟื้น
นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา รองกรรมการ ผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือเจแอลแอล ที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปี 2564 มีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้นในไทยรวม 23 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักรวมราว 3,000 ห้อง และมูลค่าการซื้อขายรวม 1.32 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 550% หรือเกือบ 6 เท่า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของมูลค่าการซื้อขายต่อปีในช่วง 10 ปีก่อนหน้าราว 30%
“เริ่มเห็นนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติสนใจตลาดโรงแรมในไทยมากขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2564 ด้วยปัจจัยหนุนหลายประการ อาทิ นักลงทุนมีทัศนคติที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการ ท่องเที่ยว การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไม่รุนแรงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นความสนใจนักลงทุน”
นายจักรกริชกล่าวว่า ตลาดโรงแรมของไทยที่มีการลงทุนซื้อขายเกิดขึ้นมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ เกาะสมุย กรุงเทพฯ และภูเก็ต มีมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 44.3%, 24.6% และ 11.7% ของมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตามลำดับ ยังมีการซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงหลายรายการที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ และการผ่อนคลายมาตรการควบคุม ต่างชาติเข้าออกประเทศ ทำให้ต่างชาติเข้ามาซื้อได้ง่ายขึ้น
น.ส.พิมพ์พะงา ยมจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการลงทุนซื้อขายภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการที่ปรึกษาด้านโรงแรม เจแอลแอล กล่าวว่า ปกติโรงแรมในกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจมากที่สุด แต่ใน ปี 2564 เกาะสมุยแซงหน้านื่องจากมีโรงแรมเสนอขายมากกว่า และยังมีการซื้อขายรายการใหญ่ที่สุดใน จำนวน 23 แห่งมีมูลค่าเฉลี่ย 500-600 ล้านบาทต่อแห่ง
และมีเพียงโรงแรมเดียวที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า พันล้านบาท ซึ่งอยู่ที่เกาะสมุย ส่วนโรงแรมในกรุงเทพฯ ตลอดช่วงวิกฤตโควิด มีราคาเสนอขายที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงและไม่พบว่ามีการลดราคาแรงๆ ทั้งนี้ราว 75% ของโรงแรมที่เสนอขายในกรุงเทพฯ มีการลดราคาขายไม่เกิน 5% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด ที่เหลือ 25% เป็นการขายโดยการเปิดประมูลโดยกรมบังคับคดี ในขณะที่โรงแรมในสมุยและภูเก็ตมีการลดราคาขายลงมากกว่า
