กระทรวงการคลังหั่นเป้าภาษีให้สรรพสามิต 3 หมื่นล้าน เซ่นลดภาษีดีเซล 3 บาท/ลิตร – แจงเงื่อนไขรับมาตรการหนุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จ่ายตรงถึงผู้ประกอบการ คาดปีแรกใช้สิทธิ์ 3 พันล้าน

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2565 ของกรมอยู่ที่ 5.97 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้มีการรวมรายได้จากการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ซึ่งไม่สามารถทำได้ตามกำหนด จำนวน 3 หมื่นล้านบาท โดยทางกรมได้หารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอลดเป้าหมายการจัดเก็บในส่วนนี้ลง ดังนั้นเป้าหมายการเก็บรายได้ของกรมในปีงบประมาณ 2565 จึงอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท โดยเป้าหมายดังกล่าวยังไม่รวมผลกระทบจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งจะทำให้รายได้หายไปอีก 1.7 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564-ม.ค.2565) อยู่ที่ 1.86 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

“ภาษีน้ำมันที่หายไป 1.7 หมื่นล้านบาท จากการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรนั้น เป็นการช่วยเหลือประชาชน และช่วยประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ก็จะส่งผลดีกับการจัดเก็บภาษีที่จะโตได้มากกว่าเศรษฐกิจอย่างแน่นอน และเชื่อว่าการปรับลดภาษีดีเซลลงเป็นเวลา 3 เดือนน่าจะเพียงพอ”

นายลวรณกล่าวว่า สำหรับมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) นั้น มีการสนับสนุนในเรื่องการลดราคาขายตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คันละ 7 หมื่นบาท-1.5 แสนบาท เบื้องต้นคาดว่าปีแรกจะมีผู้มาใช้สิทธิ์วงเงิน 3 พันล้านบาท แต่หากมีการขอมาเกินวงเงินดังกล่าวก็พร้อมขยายวงเงินให้ เพราะไม่ได้มีการจำกัดวงเงินไว้

ทั้งนี้ ขั้นตอนการอุดหนุนไม่เหมือนกับโครงการรถคันแรกที่ให้เงินส่วนลดโดยตรงกับผู้ซื้อรถยนต์ แต่การลดราคารถยนต์อีวีตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้จะให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งต้องมาทำสัญญากับกรมสรรพสามิต โดยต้องมีการสำแดงราคาต้นทุนที่แท้จริง ว่ารถยนต์ที่ขายในกรณีที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ เพื่อที่กรมสรรพสามิตจะได้ตรวจสอบได้ว่าส่วนลดที่ให้ไป ผู้ประกอบการมีการนำไปลดราคาขายปลีกให้กับผู้ซื้อรถยนต์อย่างแท้จริง

เบื้องต้นคาดว่ากรมน่าจะเริ่มทำสัญญากับผู้ประกอบการได้ในเดือนมี.ค.2565 โดยค่ายรถยนต์จะต้องผลิตรถอีวีให้ได้ตามเงื่อนไขและจำนวนที่ได้ขายไปในช่วงที่ได้รับการสนับสนุน หากค่ายรถยนต์ไม่ทำตามสัญญาก็จะมีบทลงโทษ มีค่าปรับ เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน