‘ฌอห์ณ’ความรักลงตัวเช็กศักยภาพ-ไม่ปล่อยโอกาส – ตกปากรับคำลงเล่นละคร “สิเน่หาส่าหรี” ทางช่องวัน31 ทันทีที่ได้รับการติดต่อ สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘ฌอห์ณ จินดาโชติ’ ด้วยเป็นบทประพันธ์โปรด โดยได้จับคู่ร่วมงานกับนางเอกสาว ‘ใบเฟิร์น’ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

วันนี้หนุ่มฌอห์ณได้มาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทที่ได้รับ รวมถึงอัพเดตความรักกับแฟนสาว ‘เพชร’ ภิพัชรา แก้วจินดา ที่คบกันมา 2 ปีแล้ว

สาเหตุที่รับละครเรื่องนี้?
ฌอห์ณ – “บทประพันธ์หมอพงศกร ผมอ่านมาก่อนอยู่แล้วในหลายๆ โปรเจ็กต์ หนึ่งในเรื่องที่ชอบคือ สิเน่หาส่าหรี พอมีการติดต่อมาทำให้ตัดสินใจง่าย แล้วยิ่งได้พี่เจี๊ยบ วรรธนา ที่เราชื่นชอบผลงานอยู่แล้วมาเขียนบทละคร ก็รู้สึกว่าเป็นโปรเจ็กต์ ที่ดี ตอนแรกวางแผนจะไปถ่ายอินเดีย ยิ่งอยากไป เพราะผมชอบเที่ยวอินเดีย ก็เลยง่ายครับ”

เรื่องนี้รับบทเป็นใคร?
ฌอห์ณ – “เป็น เจ้าชายกีริช ซึ่งเจ้าชายมีความเป็นปุถุชนผสมกับราชวงศ์ เขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าชาย แต่ด้วยยศที่พ่อแต่งตั้ง มันเลยมีความก้ำกึ่ง เขาอยากเป็นปุถุชนปกติ เพราะเขามีเลือดผสม แม่เป็นคนธรรมดา ดังนั้นจะมีทั้งคนที่เคารพเขาและคนไม่เห็นด้วย ความที่เขาเป็นเลือดผสมก็เลยมีมิติเยอะ ไม่ใช่เจ้าชายที่พร้อมจะปกครองเมืองในอนาคต ในตัวละครนี้จะมีทั้งความสบายและความอึดอัดในบางอย่าง”

เวลาเล่นยากไหม?
ฌอห์ณ – “ส่วนใหญ่เล่นทางตามากกว่า สุขทุกข์แสดงออกที่ตา ตาต้องแสดงออกให้คนดูรู้สึกไปด้วย ยากก็ตรงนี้ เวลาที่เหนื่อยๆ หรือมีอะไรเข้ามา ต้องพยายามรีบล้าง เพราะการแสดงออกทางสายตา ถ้าเหนื่อย ล้า ตาจะเห็นชัด แล้วตัวละครตัวนี้จะมีความ ปั่นป่วนข้างในค่อนข้างเยอะ”

เรื่องนี้เล่นกับ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ เป็นอย่างไรบ้าง?
ฌอห์ณ – “เป็นการร่วมงานกับใบเฟิร์นครั้งแรก เขาเป็นคนทำการบ้านมาดี มีลีลาอรรถรสการแสดงหลายแบบ เขาสามารถเล่นให้คนเลือกใช้ได้ว่าจะเอาแบบไหน สามารถเล่นเปลี่ยนคำพูดเปลี่ยนเสียงได้อยู่ตลอดเวลาเพื่อความเหมาะสม ส่งบทได้ดีกับผู้ร่วมเล่น ผมโชคดี จริงๆ เราก็ต้องทำการบ้านดีๆ และส่งบทให้เขา เหมือนที่เขาส่งมาเหมือนกัน มันก็จะง่ายขึ้นเยอะ”

เรื่องนี้อุปสรรคเยอะ?
ฌอห์ณ – “มันเป็นโปรเจ็กต์ที่ยาวนานจริงๆ เริ่มตั้งต้นมีการเล่าสู่กันฟังตั้งแต่ปี 60 มีการวางแคสต์นักแสดงปี 61-62 เริ่มถ่าย ปี 63 ถึงตอนนี้ปี 65 ยังไม่ปิดกล้อง เหลือไม่กี่คิว เรามีความเติบโตไปพร้อมกับ โปรเจ็กต์นี้ ตั้งแต่รู้แค่ว่าจะทำเรื่องนี้ ใครเขียนบท ใครเล่น มันเหมือนร่วมสร้างไปกับเขาทั้งที่เรามีแค่หน้าที่เป็นแค่นักแสดง”








Advertisement

หยุดถ่ายไปกี่รอบ?
ฌอห์ณ – “2-3 รอบครับ ด้วยสถานการณ์โควิด แล้วหยุดแต่ละรอบค่อนข้างนานมันก็มีผลกับการแสดงบ้าง ช่วงกลับมา 2-3 คิวแรกต้องมารื้อความรู้สึกกันใหม่ หรือแต่ละคนก็มีการเปลี่ยนแปลง บางคนอ้วน ผอมลง ผมกลับมาต้องเย็บเสื้อใหม่ หยุดอีกกลับมาอ้วนขึ้น แล้วก็มีว่าเราจำความรู้สึกของฉากนั้นไม่ได้ รู้ว่าตอนนั้นเราเล่นสุดแล้ว แต่เป็นสุดตอนที่เล่นไว้ต้นปี 2020 แล้วกลับมา ถ่ายฉากต่อจากนั้นในปี 2021 มันมีความโดดบ้าง มันต้องโน้ตเรื่องความรู้สึกให้แน่น ผู้กำกับฯต้องมาช่วย”

ในเรื่องบู๊ก็ไม่น้อย?
ฌอห์ณ – “เยอะมาก เข้าป่าทุกวีก เรียกว่าอังกอร์เลย ถ่ายไปสักคิวสองคิว พี่ป้อน นิพนธ์ กับผู้กำกับฯ อยากให้เป็นเรื่องที่มีการตามหา สมบุกสมบัน มีเส้นเรื่องของความยาก เป็นนายแพทย์ทหารต้องออกภาคสนาม ทำให้ตัวละครมีความชัดเจนในคาแร็กเตอร์มากขึ้น”

“เรื่องนี้มีครบ ซีจี บู๊ เด็ก สิ่งที่ยากคือซีจี ถึงนักแสดงหลายคนรวมถึงตัวผมจะเคย เล่นกับซีจี แต่การที่จะให้ทุกคนมองในจุดเดียวกันแล้วมีความเชื่อร่วมกัน เป็นเรื่องยาก เราต้องมาเตรียมงานคุยกัน อีกอย่างช่วงหลังการถ่ายทำมีเว้นวรรคเป็นระยะ มันต่ออารมณ์กันยาก”

ต่อจากละครเรื่องนี้มีอะไรที่ยังค้างอยู่บ้าง?
ฌอห์ณ – “ปิดไปหมดแล้ว มีแต่เรื่องนี้ พอมาทำบริษัทตัวเองก็อยากทำให้ดี เราถ่ายละครก็ไม่อยากให้กองเดือดร้อนเพราะเราวิ่งไป ทำบริษัท เลยเลือกละคร ที่รู้สึกว่าเราเหมาะ”

มาในพาร์ต นักธุรกิจบ้าง เริ่มต้นมากี่ปีแล้ว?
ฌอห์ณ – “ทุกอย่างเริ่มต้นมา ได้ 2 ปีทั้งหมด ทั้งโรงไม้ งาน โปรดักชั่นเฮาส์ น้ำหอม ก็เป็นสิ่งที่เรียนรู้ เราจะคิดว่าเราถนัดอะไร เรามีลูกมือที่พร้อมรับงานแล้วไปทางไหน ตัดสินใจยังไง โชคดีที่ได้รับโอกาสจากทุกฝ่าย ให้เรามีงานต่อเนื่อง เป็นการค้นพบตัวเองเหมือนกันนะ”

ทำไมถึงเริ่มต้นงานธุรกิจในช่วงมีโควิดพอดี?
ฌอห์ณ – “จังหวะแต่ละคนไม่ตรงกัน จังหวะนี้คงเป็นจังหวะที่เหมาะกับเรา ที่ผ่านมาเราใช้เวลาการถ่ายละครตลอดเวลา จนไม่ได้สำรวจตัวเองว่าเรามีศักยภาพอะไรอย่างอื่น มาช่วงก่อนโควิด ก็มีคนให้โอกาสในการเขียน ในการเล่าเรื่อง แนวคิดของงาน magazine online เรารู้ว่าต้องทำงานหนัก แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงไหน จากนั้นทุกคนก็เริ่มอยากเห็นว่าเราทำอะไรได้ เราทำรายการได้ ทำโฆษณาได้ เราได้กำกับฯ เอง คนก็เลยให้โอกาสมาเรื่อยๆ เลยไม่อยากปล่อยโอกาสโดยที่เราไม่ได้ทำ”

จะขยับขยายธุรกิจอะไรอีกไหม?
ฌอห์ณ – “ขยับขยายอาจจะเป็น 1 ใน 3 ของธุรกิจที่ทำอยู่ให้เป็นรูปเป็นร่างที่เร็ว มีคนให้โอกาสเยอะ มีทุนเข้ามาก็อยากทำให้ชัดเจนมากขึ้น เพราะตอนนี้ได้โปรเจ็กต์นึงมาแล้ว เราจะทำได้ดีมันก็จะต่อยอด อยากให้คนเห็นและเชื่อมั่นในแบรนด์ของบริษัทเรา ผมอยากดันให้ธุรกิจไปได้ดี”

จะมีงานอะไรเกี่ยวกับเบื้องหลังมาให้เห็นบ้างไหม?
ฌอห์ณ – “มีครับ ในอนาคตออกมาเป็นสารคดีเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นโปรเจ็กต์ คงจะมีแบบสั้นๆ ในการแนะนำสถานที่ จะได้เห็นในอีกบทบาทหนึ่งคือเป็นพิธีกรเอง เดินไปคุยเอง ตัดต่อเอง เป็นงานที่หนัก ค่าตอบแทนน้อยกว่านักแสดง แต่เรารู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดี แล้วก็ทำให้เราโตขึ้น”

“ผมพยายามหาโอกาสให้ตัวเองเพราะเรารู้สึกว่าเราอยากรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้มากแค่ไหน แต่ไม่ได้เอาทุกอย่างมาใส่ที่ตัวเราหมด จนทำไม่ดีสักอย่าง แล้วงานประมาณ 3 ชิ้น เรากำลังทำได้ มากกว่านี้อาจจะทำไม่ได้หรอก”

หลายคนบอกว่าฌอห์ณเป็นหนุ่มสุขุม นุ่มลึก จริงไหม?
ฌอห์ณ – “ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นคนคิดเยอะ บริบทมันมีเยอะ ไม่ได้คิดแค่ว่าทำอะไรกิน คิดไปถึงวันข้างหน้าอีกมากกว่า แล้วก็อาจจะเป็นคนเจอสังคมหลากหลายก็จะเป็นคนคิดเผื่อ อาจจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า”

ตอนนี้ความรักกับคุณเพชรเป็นอย่างไรบ้าง?
ฌอห์ณ – “ตอบเหมือนเดิม มีความสุขครับ จริงๆ ที่ได้เจอคุณเพชรได้เรียนรู้เขา ยิ่งรู้จักมากขึ้น รู้สึกเขาเป็นผู้หญิงที่เก่ง ทุกคนจะเดินมาบอกผมตลอด คุณโชคดีที่ได้เจอคุณเพชร เรายินดีด้วยนะ เราก็รู้ว่ามันเป็นเหมือนเราได้รับเกียรติมากๆ”

2 ปีแล้วที่คบกันดูแลกันอย่างไร?
ฌอห์ณ – “ฟังเยอะๆ ให้เกียรติเขามากๆ ไม่ว่าเขาจะอยู่ตรงไหน พูดถึงเขาเคารพเขา”

ใช้คำว่าเคารพเลย?
ฌอห์ณ – “ใช่ ใช้คำว่าเคารพแล้วมันจะตามมาด้วยคำว่าเกรงใจ จะไม่ใช้คำว่ากลัวเขา แต่ถ้าเราเกรงใจ แล้วมันจะตามมาด้วยการให้เกียรติกัน”

ทำงานเยอะด้วยกันทั้งคู่ มีปัญหาเรื่องเวลากันบ้างไหม?
ฌอห์ณ – “เวลามันมีเสมอครับ 5 นาทีก็นับเป็นเวลา ถ่ายละครเลิกดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องเข้าออฟฟิศ วิ่งถ่ายงานที่นึง ต้องเข้าไปดูห้องตัด ก็จะหาเวลาอย่างน้อย แวะซื้อข้าวมากินข้าวบ้านเขาครึ่งชั่วโมงแล้วก็ไปทำงานต่อ ผมเชื่อว่าคนรักกันจะเข้าใจกัน แต่ถ้าเขาไม่พยายามเข้าใจ เขาไม่ได้รักเราจริง เขาก็ทำกับผมเหมือนกับที่ผมทำกับเขา เขาก็ไม่มีเวลา แต่เวลาเขารู้ว่าเราเหนื่อยมาก เขาก็ให้เรานอน แต่เขาก็ยังอยู่ในโทรศัพท์ ฟังเราคุยจนเราหลับ คือการพยายามเข้าใจกัน”

เขาดูเป็นผู้หญิงเก่งแล้วก็เหมือนพี่สาวเรามาก?
ฌอห์ณ – “ใช่ครับ สุดท้ายแล้วความชอบโดยไม่รู้ตัวของผมคือผมชอบผู้หญิงเก่ง ผู้หญิงทัศนคติที่ดี วางตัวดี คุณพลอยยังบอกเลยว่าเขาเหมือนพี่มากเลย ดูเข้ากันได้เหมือนผมมีเพชรพลอยอยู่ข้างๆ ตลอด”

ศึกษากันมา 2 ปีแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปบ้างไหม?
ฌอห์ณ – “ผมไม่ค่อยเปลี่ยน แต่ของเขาจะเปลี่ยนไปมากกว่า คนรู้จักเขามากขึ้น เขาต้องปรับตัวเยอะขึ้น จะโพสต์อะไรก็ต้องคิดเยอะขึ้น ความเป็นส่วนตัวถูกลดทอนลง แน่นอนว่าจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ผมรู้สึกว่าเราทำในสิ่งที่ถูก เราให้เกียรติกัน เขาเป็นความสุขของผม แล้วเราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร การลงรูปเราคิดมาแล้ว ไม่ได้ลงรูปเกินงามและยังไม่ได้ลงรูปที่ไม่ใช่ความเป็นจริง มันเป็นเจตนาที่ดี ไม่มีเสียหายงานเขา”

“เขาเป็นผู้หญิงเก่ง เขาไม่อยากให้ เพ่งเล็งเขาว่าเป็นแฟนผม เขามีแบรนด์สินค้าที่ต้องดูแล เขาอยากให้คนรู้จักเขาจากการทำงาน รู้จักเขาในแบรนด์เขา เขาไม่อยากให้คนรู้จักว่านี่คือคุณเพชรแล้วมีสร้อยต่อท้ายว่าแฟนฌอห์ณ เขาสร้างตัวเองมาไกลขนาดนี้ ผมก็ไม่อยากไปติดป้ายหน้าเขาว่าอะไร คือทุกคนรู้ว่าเขาเป็นแฟนผม ผมเป็นแฟนเขา เราไม่จำเป็นต้องโฆษณาขนาดนั้น”

2 ปีแล้วมีความคิดที่จะมีอนาคตร่วมกันไหม?
ฌอห์ณ – “คิดครับ ก็ตอบเหมือนเดิม ไม่มีใครอยากเหนื่อยหรอก แต่ที่ทุกวันนี้ผมพยายามทำงานเหนื่อยจนเวลานอนน้อยหรือต้องวิ่งหลายๆ ที่ทำอะไร หลายอย่าง เพราะมันเป็นโอกาส เรามีเป้าหมายคือการใช้ชีวิตคู่ ชีวิตของเขาดีมาอยู่แล้ว ผมต้องไม่ให้เขาลำบาก แต่มันต้องลำบากแน่ๆ ในการใช้ชีวิตคู่มันต้องมีทะเลาะกัน มันต้องมีเงินใครมาก เงินใครน้อย”

“แต่เราต้องแสดงเจตนาและความตั้งใจให้เขาและที่บ้านเขาเห็นว่าเราสู้จริงๆ ด้วยตัวเขาอายุห่างจากผมปีหนึ่ง แต่ด้วยวัยเราเองด้วย ก็คงไม่นาน แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดเวลา ต้องคุยกันก่อนครับ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน