งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ล ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา “พีก เพอร์ฟอร์มานซ์” สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายละเอียดสินค้าใหม่น่าดึงดูดใจจำนวนมาก พุ่งเป้ายั่วยวนผู้บริโภคแทบทุกกลุ่มตั้งแต่ผู้กำลังมองหา iPhone เครื่องแรก หรืออัพเกรดแบบคุ้มค่า ไปจนถึงบรรดาคอนเทนต์ ครีเอเตอร์สายแข็งที่ต้องการฮาร์ดแวร์ทรงพลังมาสร้างสรรค์งานยุคออนไลน์ครองโลก นอกจากนี้ ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิ้ล ยังยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตในสงครามยูเครนด้วย

iPhone 13 สีใหม่ “เขียวเหนี่ยวทรัพย์”
สีเขียวสองสีใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 มาพร้อมดีไซน์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับการเสริมความทนทานมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield พร้อมสีเขียวอัลไพน์สำหรับ iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max และ สีเขียวสำหรับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini

บ๊อบ บอร์เชอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดระดับโลกกล่าวว่า ผู้คนชื่นชอบดีไซน์ของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 อย่างมาก และแอปเปิ้ลรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ เผยโฉมสีเขียวอัลไพน์และ สีเขียวสวยสะดุดตาใหม่ ซึ่งจะมาเป็นหนึ่งในเฉดสีสวยงามของกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13

“สีสันใหม่ๆ นี้มอบตัวเลือกให้ลูกค้ามากกว่าเดิมเมื่อเลือกซื้อ iPhone และเรารอแทบไม่ไหวที่ จะให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์ของ กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ไม่ว่าประสิทธิภาพไม่มีใครเทียบได้ของชิพ A15 Bionic ระบบกล้องดีที่สุดของเรา ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นสำหรับการใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน คลื่น 5G ที่รวดเร็ว สุดยอดของวัสดุที่ทนทาน และอื่นๆ อีกมากมาย” บอร์เชอร์ระบุ

ทั้งนี้ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัดและทนทาน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีเขียวอัลไพน์แบบใหม่ที่รังสรรค์ โดยการนำเซรามิกโลหะหลายชั้น บางระดับนาโนเมตรมาเคลือบลงบนพื้นผิว เข้ากับขอบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ ทำเครื่องมือศัลยกรรมและด้านหลังแบบกระจกผิวด้านได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางแอปเปิ้ลออกสีใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone ให้เป็นสีเขียว ที่ผ่านมารุ่นก่อนหน้าเคยมีผลิตภัณฑ์สีเขียว ออกมาวางจำหน่ายแล้ว ตั้งแต่ iPhone 12 (สีเขียว) iPhone 11 Pro (สีเขียวมิดไนต์) iPhone 11 (สีเขียว) และ iPhone 5c (สีเขียว)

iPhone SE 3
เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นแรกและผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2565 ด้วย iPhone SE 3 ถือเป็นการกลับมาของสมาร์ตโฟนซีรีส์นี้ หลังห่างหายไปนานสองปี โดยยังคงแนวคิดการเป็น iPhone ราคาประหยัดที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone

ความเปลี่ยนแปลงของ iPhone SE รุ่นที่สาม เป็นการเปลี่ยนมาใช้ชิพ Apple A15 Bionic และตัวเครื่องรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารยุคที่ห้า หรือ 5G ซึ่งทำให้รุ่นนี้ดีกว่า iPhone SE รุ่นเดิม และมี ประสิทธิภาพพอๆ กับ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro

ชิพ A15 Bionic ยังมีระบบประมวลผลภาพที่แอปเปิ้ลใส่เข้ามาทำให้กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) ของ iPhone SE ถ่ายภาพ ออกมาแล้วเรนเดอร์ได้สวยงามกว่าเดิม ไล่สี แสง และสกินโทนได้งดงาม ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 และสามารถอัพเกรดต่อไปได้ นอกจากนี้กล้องใหม่ของ iPhone SE ยังรองรับระบบ Smart HDR 4 ด้วย

ด้านการออกแบบ iPhone SE มีปุ่ม Home รองรับการใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Touch ID บนขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว จอเป็นแบบ Retina IPS LCD ความละเอียด 750 x 1334 พิกเซล ตัวเครื่องออกแบบให้กันน้ำ-กันฝุ่นตามค่ามาตรฐาน IP67 นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังระบุว่าตัวเครื่อง iPhone SE 2022 รุ่นใหม่จะมีแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าดีขึ้นในลักษณะเพิ่มประจุแบตเตอรี่ หรือจากการจัดการระบบพลังงานที่ดีขึ้นของชิพ A15 Bionic

iPhone SE เริ่มเปิดให้จองศุกร์ที่ 18 มี.ค.นี้ ก่อนเริ่มส่งมอบเครื่องในวันที่ 25 มี.ค. ราคาในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 15,900 บาท (64 GB) 17,900 บาท (128 GB) และ 21,900 บาท (256 GB) มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวสตาร์ไลต์ สีดำมิดไนต์ และสีแดง

Apple Silicon M1 Ultra
ขุมพลังใหม่ล่าสุดที่เป็นการนำ M1 Max มารวมกันไว้บนซิลิคอนแผ่นเดียว และออกแบบให้ทำงานรวมกันจนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ท้าชนกับหน่วยประมวลผลในคอมพิวเตอร์ระดับ Desktop PC ระดับไฮเอนด์ โดยมีความถี่สัญญาณนาฬิกาสูง และมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 20 คอร์ แต่ประหยัดพลังงานเพราะใช้ไฟจากตัวจ่ายกลางขนาดเพียง 200 วัตต์ (W)

ด้าน Neural Engine แบบ 32 คอร์ของชิพ M1 Ultra สามารถประมวลผลได้สูงสุด 22 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงจัดการ กับงานด้านการเรียนรู้ของระบบที่ท้าทาย ได้รวดเร็วและชิพ M1 Ultra ยังมาพร้อมมีเดียเอ็นจิ้นที่มีความสามารถเหนือกว่าชิพ M1 Max ถึง 2 เท่า จึงสามารถเข้ารหัสและถอดรหัสวิดีโอ ProRes ได้เร็วอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

iPad Air 5
iPad Air รุ่นที่ 5 ที่มีการนำชิพ M1 มาใช้ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นร้อยละ 60 พร้อมเปลี่ยนความละเอียดกล้องหน้าเป็น 12 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อกับ USB-C ได้เร็วขึ้น 2 เท่า และ iPad OS เวอร์ชั่นใหม่ที่มีฟีเจอร์ใหม่ทั้งแอพพลิเคชั่น มากมาย กล้องหน้าอัลตราไวด์ความละเอียด 12 MP และกล้องไวด์ความละเอียด 12 MP ที่ด้านหลังของ iPad Air ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพคมชัดและวิดีโอระดับ 4K สแกนเอกสาร และเพลิดเพลินกับประสบการณ์ AR ที่น่าทึ่งได้

iPad Air มอบโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ รองรับการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่าง เดินทาง 5G ช่วยให้ iPad Air ใช้ระดับความเร็วสูงสุดถึง 3.5 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ทั้งยังรองรับ eSIM และ Wi-Fi 6 ด้วย สนนราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท

Mac Studio
คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปรุ่นใหม่ล่าสุด Mac Studio เป็นรุ่นที่ทางแอปเปิ้ลจัดไว้ระหว่าง Mac Mini กับ Mac Pro แม้ตัวเครื่องจะเป็น กล่องรูปร่างเหมือน Mac Mini แต่สูงขึ้นกว่าเดิม ทว่าภายในมาพร้อมชิพประมวลผล รุ่นใหม่อย่าง M1 Max และตัวจี๊ดสุดอย่าง M1 Ultra เทียบได้กับ M1 Max จำนวน 2 ตัว ที่แอปเปิ้ลนำมารวมพลังกัน ถือเป็นชิพทรงพลังที่สุดจากแอปเปิ้ล และหมายมั่นจะล้มแชมป์ประสิทธิภาพกราฟิกอย่างชิพประมวลผลกราฟิก หรือจีพียู ระดับ GeForce RTX 3090 จากค่าย Nvidia เหมาะสำหรับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์สายแข็งทั้งหลาย

Mac Studio มาพร้อมช่องรองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย อาทิ Thunderbolt 4, 10 GB Ethernet Port, USB-A x2, HDMI Port ช่อง หูฟังแบบมินิสเตอริโอ USB-C x2 และ SD card slot นอกจากนี้ ยังรองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 สนนราคาที่ 62,900 บาท

Studio Display
จอภาพคู่หูของ Mac Studio ขนาดจอ 27 นิ้ว ความละเอียด 5K ความสว่าง 600 นิต ให้สีได้กว่า 1 พันล้านสี ภายในมีชิพ A13 ที่ทำให้จอตัวนี้สามารถทำงานได้เองโดยไม่ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์ตัวอื่นมาเชื่อมต่อ โดยที่ ตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อ ได้แก่ USB-C x3 และช่อง Thunderbolt ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่อง Mac รุ่นอื่นๆ ได้สะดวกรวดเร็ว สนนราคาที่ 51,500 บาท

ทีมข่าวสดไอที
ภาพ-แอปเปิ้ล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน