เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่รัฐสภา นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ผู้เสนอตัวลงสมัครส.ส.กทม. พรรคกล้า พร้อมด้วยนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกมธ. พร้อมยื่นรายชื่อประชาชน 8,000 รายชื่อ ที่ร่วมแสดงความต้องการให้มีการเพิ่มบทลงโทษทาง วินัยกับส.ส.ที่ไม่แสดงตนหรือขาดประชุม จนเป็นเหตุให้สภาล่ม
นายพงศ์พลกล่าวก่อนเข้าชี้แจงว่า พรรคกล้าได้รับหนังสือเชิญ จากกมธ. ให้มาร่วมให้ข้อมูล โดยพรรคมีข้อเสนอ 3 ระดับ คือ 1.หากส.ส.ที่มาลงชื่อ แต่ไม่แสดงตน จะได้รับโทษปรับในวันนั้น 2.ส.ส.ที่ขาดประชุม 3-5 ครั้ง ได้รับโทษเป็นใบเหลือง และ 3.ส.ส. ที่ขาดประชุมตั้งแต่ 25% ของการขาดแสดงตนจะต้องโทษเป็นใบแดง ซึ่งแนวคิดนี้คงยากที่จะเกิดขึ้น แต่เราอยากจะเริ่มดำเนินการ โดยโทษค่าปรับสามารถนำมาบังคับใช้ได้เลย ขณะที่โทษใบเหลืองใบแดง อาจต้องไปดูข้อกฎหมายที่ทับซ้อนกันอยู่ นอกจากนี้ เราจะดำเนินการไปถึงเรื่องจริยธรรมในขั้นต่อไปอีกด้วย
ด้านนายแสนยากรณ์กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงมาตรฐานทางจริยธรรมของสภา เข้าใจว่าหน้าที่ส.ส.ต้องกลับไปลงพื้นที่ ยิ่งมีสถานการณ์รุมเร้า มีสัญญาณจะยุบสภา ส.ส.จึงมีแนวคิดที่อาจจะต้องลงพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา ต้องปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติในสภา ตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่ต้องรักษาองค์ประชุมในสภา ถือเป็นหน้าที่โดยตรงของส.ส. หากพรรคกล้าได้เสนอข้อเสนอดังกล่าวต่อกมธ.แล้ว จะติดตามความคืบหน้าที่แน่ชัด หวังว่าจะชัดเจนก่อนเปิดสมัยประชุมสภาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.นี้ แต่หากยังไม่มีความคืบหน้า จะต้องไปยื่นต่อหน่วยงานอื่น เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน
จากนั้นกลุ่มของนายพงศ์พลได้เข้าไปชี้แจงต่อที่ประชุมกมธ. เพียง 10 นาที นายพงศ์พลออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุที่พวกตนเข้าไปชี้แจงได้เพียง 10 นาที เนื่องจากยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร เพียงแต่ตนเริ่มจะฉายสไลด์ ถึงสถิติสภาล่ม 16 ครั้ง และความเสียหายที่เกิดขึ้น 66.8 ล้านบาท ปรากฏว่ากมธ.ส่วนใหญ่ประท้วงทันที โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ รองประธานกมธ. ระบุว่าสไลด์ของตนยังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำมาเสนอ จึงขอให้นำสไลด์และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ประธานกมธ.ตรวจสอบก่อน และขอให้ดำเนินการประชุมเป็นการภายใน พร้อมกับเสนอให้เชิญตน และทีมงานออกห้องประชุมทันที โดยระบุว่าจะเชิญมาชี้แจงต่อที่ประชุมในภายหลัง
“ผมรู้สึกผิดหวังต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะข้อมูลที่นำมาเสนอมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของส.ส.โดยตรง แต่ยืนยันว่าเป็นข้อเท็จจริง และมีการปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชนมาแล้ว จนเป็นเหตุให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อสภา แต่กมธ.กลับด้อยค่ากับข้อมูลเหล่านี้ ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนของประชาชนกว่า 8,000 เสียง อยากเห็นการเมืองที่มีคุณภาพ แต่เมื่อถูกปิดกั้นเช่นนี้จะนำข้อมูลเหล่านี้ชี้แจงต่อสาธารณะ และจะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป” นายพงศ์พลกล่าว
