เส้นแบ่งระหว่างฮีโร่กับตัวร้ายจะถูกทำลาย เมื่อ มอร์เบียส อีกหนึ่งคาแร็กเตอร์ในตำนานของมาร์เวล คืนชีพในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Morbius (มอร์เบียส)
โดยได้นักแสดงหนุ่มสายเซอร์ฝีมือดี จาเร็ด เลโต มารับบท มอร์เบียส

สำหรับหนุ่มเลโต ปัจจุบันอายุ 50 ปี แต่ยังดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงมาก ถูกยกเป็นหนุ่มหน้าเด็กแห่งฮอลลีวู้ด เกิดเมื่อ 26 ธันวาคม ค.ศ.1971 ที่ลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นการแสดงกับผลงานซีรีส์เรื่อง My So-Called Life ในบทของ จอร์แดน คาทาลาโน ที่ประสบความสำเร็จและเริ่มเป็นที่รู้จัก จนทำให้เขาได้มามีผลงานภาพยนตร์

เล่นหนังเรื่องแรก How to Make an American Quilt (1995) และได้รับคำชื่นชมอย่างมากกับภาพยนตร์เรื่อง Prefontaine (1997) หนังที่สร้างจากชีวิตจริงของ สตีฟ พรีฟอนเทน นักวิ่งมาราธอนคนสำคัญในประวัติศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ
เป็นนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Dallas Buyers Club (2013) กับบทบาทสุดท้าทายที่เขารับบทเป็นหญิงข้ามเพศที่ติดโรคเอดส์

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ชอบรับบทบาทสุดท้าทาย และการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจากบทบาทที่เขาได้รับในฐานะผู้เสพติดเฮโรอีนในภาพยนตร์เรื่อง Requiem for a Dream เขาได้เตรียมพร้อมร่างกายสำหรับบทนี้ โดยการที่ต้องลดน้ำหนักตัวไปถึง 11 กิโลกรัม และมีรายงานว่าเขาได้ทดลองใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนร่วมกับพวกขี้ยาเพื่อเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย

ส่วนบทบาท โจ๊กเกอร์ จากภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad กับการพูดถึงความสามารถในการแสดงของเขาแบบ Method Acting ที่อินแบบจัดหนักและจัดเต็มสวมบทบาทการเป็นโจ๊กเกอร์ทั้งในจอและ นอกจอตลอดการถ่ายทำ
และก่อนหน้านี้ไม่นานกับการเล่นในภาพยนตร์เรื่อง House of Gucci ที่เจ้าตัวรับบทเป็น เปาโล กุชชี่ ก็แปลงโฉมเปลี่ยนตัวเองไปเป็นคนละคน ชนิดทำเอาคนดูต้องอึ้งอ้าปากค้าง

นอกจากนักแสดง หนุ่มคนนี้ยังเป็นนักแต่งเพลง นักร้อง นักดนตรี โดยร่วมก่อตั้งวงดัง Thirty Seconds to Mars ร่วมกับพี่ชายของเขา แชนนอน เลโต ในปี 1998 และได้เซ็นสัญญากับค่าย Immortal records และ Virgin records
มีอัลบั้มเปิดตัวในปี 2002 ใช้ชื่อเดียวกับชื่อวงคือ Thirty Seconds to Mars และยังคงมีผลงานอย่างต่อเนื่อง อัลบั้มล่าสุดชุดที่ 5 ในชื่อ America ออกมาเมื่อปี 2018

นอกจากนี้วงของเขาไม่ได้มีแค่ผลงานทางดนตรีเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำงานศิลปะดนตรีในรูปแบบหนังสือ หนังสั้น และสารคดีอีกด้วย
ส่วนการเล่นเป็น มอร์เบียส นับเป็นอีกบทเด่นที่น่าจับตา เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญในโลกของมาร์เวล เป็นคู่ปรับตัวฉกาจของสไปเดอร์-แมน
มอร์เบียส หรือ ดร.ไมเคิล มอร์เบียส แพทย์ ผู้เก่งกาจแต่เกิดและเติบโตมาอย่างอ่อนแอ เพราะการเป็นโรคเลือดที่หายากและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต เขาจึงมุ่งมั่นที่จะค้นคว้าหาวิธีรักษาโรคเลือดให้กับตัวเองและคนอื่นๆ ที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับเขา

อัจฉริยภาพของ มอร์เบียสไม่เพียงแต่ค้นพบวิธีที่จะรักษาโรคได้เท่านั้น วิธีการรักษาที่ได้ผลเกินคาด ให้พละกำลังและพลังพิเศษมากมายเหนือจินตนาการแก่เขาด้วย แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนและผลข้างเคียงที่เลวร้าย นั่นคือความกระหายในเลือดมนุษย์ที่ไม่อาจควบคุมได้
มีการตั้งคำถามว่า มอร์เบียส แท้จริงแล้วเขาคือผู้พิทักษ์หรือวายร้ายผู้ทำลายล้างกันแน่? เส้นบางๆ ระหว่างฮีโร่ หรืออสูรร้าย พลังพิเศษที่มีมากมายของ มอร์เบียส ที่ถ้าหากควบคุมความกระหายเลือดไม่ได้ เขาอาจเป็นผู้ทำลายล้างตัวฉกาจ

มอร์เบียส คือ Living Vampire ใช่หรือไม่? เมื่อพูดถึงแวมไพร์ หลายคนคงนึกถึงมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วแต่ฟื้นคืนชีพและอยู่ได้ด้วยการดื่มเลือดแถมมีชีวิตเป็นอมตะ แต่สำหรับ living vampire นั้น แตกต่างกันตรงที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังพอมีความสามารถเหมือนแวมไพร์ทั่วไป แสงแดดอาจทำให้มอร์เบียส อ่อนกำลังลง แต่ก็ไม่ได้เป็นผลมากนัก ส่วนไม้กางเขน น้ำมนต์ และกระเทียม ไม่สามารถทำอะไรมอร์เบียสได้เลย

มอร์เบียส คือยอดมนุษย์สินะ เพราะเขามีพละกำลังมหาศาล มีพลังพิเศษเด่นๆ คือ มีความแข็งแรงมาก มีความเร็วในการเดิน วิ่ง ร่อน หรือ บินได้ มีพลังตรวจจับคลื่นเสียงได้อย่างดี
มาฟังหนุ่ม จาเร็ด เลโต พูดถึงมอร์เบียส กัน “มอร์เบียส เป็นตัวละครมาร์เวลที่มีส่วนสำคัญในจักรวาลนี้ เขาฉลาดมาก เขา แข็งแรง เขามีพลังพิเศษบางอย่าง แต่ดูเหมือนว่าพลังของเขาอยู่เหนือการควบคุม ผมชอบโอกาสที่ได้ทำอะไรที่เปลี่ยนตัวเองไป ผมกลายเป็นบางสิ่งที่ต่างไป มันเป็นบทบาทที่ใช้ร่างกายหนักมาก”

“มอร์เบียส ตอนที่อ่อนแอที่สุดก็จะร้ายกาจที่สุดด้วย นี่คือซูเปอร์ฮีโร่และสุดยอดวายร้าย เป็นการนำตัวละครใหม่จากมาร์เวลสู่จอภาพยนตร์ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันคงสนุกน่าดูว่าเราจะทำมันได้แค่ไหน มันคือโยงใยแห่งโอกาส”

“มอร์เบียสปรากฏตัวในฐานะศัตรู ใน ดิ อเมซิ่ง สไปเดอร์-แมน ปี 1971 และก็ได้พัฒนาสู่การเป็นแอนตี้ฮีโร่ในที่สุด ก่อนหน้านี้หลายปี มาร์เวลถูกห้ามไม่ให้ใช้ตัวละครที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องใหญ่มากที่ท้ายที่สุดแล้วมอร์เบียสก็ถูกสร้างขึ้น เขาเป็นส่วนหนึ่งของด้านที่มืดมนในมาร์เวล สิ่งที่ โชคดีมากคือแฟนๆ ให้การตอบรับอย่างดี หลังจากนั้นทุกคนก็รักเรื่องราวอสูรผู้พิทักษ์นี้”

“มีเรื่องราวบางอย่างของตัวละครที่ปลุกจินตนาการของผู้คน และมันสามารถจับต้องเข้าถึงได้ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นกับผมด้วย แล้วเจอกันในโรงภาพยนตร์”
เส้นบางๆ ระหว่างฮีโร่และอสูรร้ายจะขาดสะบั้น Morbius (มอร์เบียส) มีกำหนดฉาย 31 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน