วันที่ 21 มี.ค. บีบีซีและเอเอฟพีรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครนที่ ยืดเยื้อต่อเนื่องตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ทางการยูเครนยืนยันปฏิเสธข้อเรียกร้องของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่กำหนดเส้นตายให้กองกำลังยูเครนในเมืองมาริอูโปล ทางตะวันออกเฉียงใต้ ยอมแพ้ภายในเวลา 05.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งหนังสือพิมพ์ริอาโนวอสติของทางการรัสเซียระบุว่า หากรัสเซียได้รับจดหมายตอบรับข้อเสนอยอมแพ้จากยูเครน รัสเซียจะเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่อให้ประชาชนในเมืองมาริอูโปลเดินทางออกจากพื้นที่
เศษซาก – ผู้คนมองดูซากปรักหักพังของศูนย์การค้าในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน หลังกองกำลังรัสเซียยิงถล่ม พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวอีกครั้ง (เอพี)
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่ามีชาวยูเครนลี้ภัยพลัดถิ่นเพราะสงครามแล้วกว่า 10 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด และเกือบ 3.5 ล้านคนอพยพออกนอกประเทศ
พล.อ.อาวุโสมิกฮาอิล มิซินต์เซฟ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารการป้องกันประเทศของรัสเซียระบุว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองมาริอูโปลจะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีด้วยศาลทหารหากไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขยอมจำนน
ขณะที่นางอิรินา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่าไม่มีข้อสงสัยถึงการยอมจำนน ยูเครนได้แจ้งฝ่ายรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วว่าไม่มีการยอมแพ้ และยูเครนจะเดินหน้าต่อสู้กับการรุกรานที่ไม่ชอบธรรม ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค. กองกำลังรัสเซียยิงถล่มโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองมาริอูโปล ซึ่งประชาชนกว่า 400 คนใช้เป็นที่หลบภัย ท่ามกลางความวิตกว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากติดใต้ซากปรักหักพังของอาคาร
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่าพร้อมที่จะติดต่อโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตนเชื่อว่าการเจรจาเป็นหนทางเดียวที่จะยุติสงครามในครั้งนี้ ตนคิดว่าจำเป็นต้องใช้โอกาสที่มีเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ในการเจรจาต่อรอง แต่ย้ำว่าจะไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ที่บีบบังคับให้ยูเครนต้องยอมรับว่าภูมิภาคแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเป็นรัฐเอกราช นอกจากนี้ ผู้นำหนุ่มยังเชื่อว่าความล้มเหลวในการเจรจายุติการรุกรานของรัสเซียอาจหมายถึง “สงครามโลกครั้งที่สาม” และหากยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) สงครามคงไม่เริ่มขึ้น “ถ้าชาติสมาชิกนาโตพร้อมที่จะเห็นเราเป็นพันธมิตรก็ควรดำเนินการในทันที เพราะตอนนี้มีคนต้องล้มตายทุกวัน” นายเซเลนสกีกล่าว
ขณะที่สถานการณ์ในกรุงเคียฟยังตึงเครียด หลังจากกองกำลังรัสเซียระดมโจมตีเขตชุมชน พื้นที่พักอาศัย และศูนย์การค้า ด้านนายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เปิดเผยจากข้อมูลของหน่วยบริการเหตุฉุกเฉินว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังดับไฟที่โหมไหม้ศูนย์การค้าเรโทรวิลล์ในเขตโปดิลสกี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ กรุงเคียฟ และเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้นายคลิตช์โกยังประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟอีกครั้ง ตั้งแต่ค่ำวันที่ 21 มี.ค. ถึงเช้าวันที่ 23 มี.ค.
