‘ภูริพล’เจ็บสมุทรปราการถอนผลัด4X100 – การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ที่จังหวัดศรีสะเกษ “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดดาวรุ่งวัย 16 ปี จากสมุทรปราการ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเพิ่งทำลายสถิติวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร โดยวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.19 วินาที ทำลายสถิติประเทศไทย ของ เหรียญชัย สีหะวงษ์ ที่เคยทำเอาไว้ 10.23 วินาที ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2541 ลงได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติที่จิระพงศ์ มีนาพระ จากสุราษฎร์ธานี เคยทำไว้ 10.31 วินาที เมื่อปี 2557 ได้อีกด้วย ส่วน 200 เมตรชาย ภูริพลทำสถิติ 20.58 วินาที ทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ และสถิติประเทศไทย ที่พีเหรียญชัย สีหะวงษ์ ทำไว้ 20.69 วินาที (กีฬาซีเกมส์ บรูไน ปี 2542)
ล่าสุดเมื่อ 21 มี.ค.65 ภูริพล บุญสอน มีโปรแกรมลงแข่งขันในประเภท 4×100 เมตรชาย ทว่าต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง 200 เมตร โดยหลังวิ่งเข้าเส้นชัยภูริพล มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา ต้องให้แพทย์สนามปฐมพยาบาล
ภูริพลเผยว่า จริงๆ มีโปรแกรมลงแข่งขันในรายการ 4×100 เมตรอีก 1 รายการ แต่เนื่องจากมีอาการตึงที่ต้นขาขวา หลังวิ่ง 200 เมตรจบเมื่อวานนี้ ทำให้ปรึกษากับโค้ชว่าจะถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากไม่อยากให้เจ็บไปมากกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวก็เสียดายแต่ก็เข้าใจกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้าฝืนก็ อาจจะเจ็บมากกว่านี้ และอาจส่งผลกระทบกับการแข่งขันในนาม ทีมชาติได้
“ส่วนการทำลายสถิติ 2 รายการในการแข่งขันรายการนี้ รู้สึกดีใจมาก และไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำได้ ก่อนมาแข่งขันวางเป้าหมายแค่ติด 1 ใน 3 ของการแข่งขันทุกรายการเท่านั้น หลังจากนี้ก็คงต้องกลับไปซ้อมหนักต่อไป เพื่อพัฒนาสถิติขึ้นมาอีกในอนาคต”
ด้าน “โค้ชอ๊อด” นายวัฒนา สุวรรณรักษา โค้ชผู้ฝึกสอน “เจ้าบิว” ภูริพล บุญสอน เผยว่า ดีใจกับน้องที่สามารถทำได้ หลังจากมุ่งมั่นฝึกซ้อมมานานเกือบ 10 ปี เป้าหมายของเขาตั้งใจว่าจะไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ซึ่งหากดูก็อาจจะมองว่ามันสูงมาก แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่เกินความสามารถของเขา เพราะบิวมีความมุ่งมั่น และ มีระเบียบวินัยสูง อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าตัวมีคือพรสวรรค์ที่ติดตัวมา จากนี้ในหน้าที่โค้ชไม่อยากไปกดดันมาก อยากให้เขาพัฒนาขึ้นไปที่ละก้าว ด้วยอายุยังน้อย เชื่อว่ายังพัฒนาได้อีกไกล
เตะคว้าแชมป์ – ภาณุวัตร ไกลทอง จอมเตะจ.อุทัยธานี เตะทำแต้มใส่ เซราฟิน โซโต้ โรตริเกซ์ จ.บุรีรัมย์ ก่อนภาณุวัตรชนะ 3-0 คว้าเหรียญทองเทควันโด รุ่น 63 ก.ก.ชาย เมื่อ 21 มี.ค.
‘แฝดเล็ก’เผยอาจวิ่งต่ำกว่า 10 วิ.
“แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย เผยว่า ตั้งแต่เจ้าตัวเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างจริงจังกับพี่ๆ ในแคมป์ทีมชาติ ตั้งแต่เดือนก.ย.2564 ก็ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีมาโดยตลอด สำหรับ “ภูริพล” เด็กคนนี้ถือเป็นนักกีฬามีความมุ่งมั่ง มีระเบียบวินัยที่ดีเยี่ยม มีโครงสร้างร่างกายที่ดีมากๆ ในวัย 16 ปี สูงถึง 183 ซ.ม. ท่าทางการวิ่งดี ช่วงก้าวของขายาว นี่เป็นสิ่งที่ดีที่จะต่อ ยอดพัฒนาตัวเองไปได้อีกไกล ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสที่ภูริพลจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้อีก และมีโอกาสประเทศไทยจะมีนักวิ่งที่ทำเวลา 100 ม.ได้ในระดับ 9 วินาทีด้วย ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้นั้น ตนคุยกับ ภูริพลแล้ว และบอกกับเจ้าตัวอยู่เสมอว่าไม่ต้องกังวลหรือกดดัน ขอให้ฝึกซ้อม และขอให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
“ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งภูริพล เองยังไม่เคยได้สัมผัสเวทีระดับดังกล่าวเลย และจะประเดิมลงแข่งขันครั้งแรกในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เดือนพ.ค.นี้ สมาคมไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าตัวจะต้องประสบความสำเร็จถึงขั้นต้องคว้าเหรียญทองได้เลยตั้งแต่แมตช์ ดังกล่าว สำคัญที่สุดคือ สมาคมอยากให้เจ้าตัว ได้ลองใช้เวทีดังกล่าวเก็บเกี่ยวและสั่งสมประสบการณ์”
ทองยูธอลป.ร่วงรอบแรก
เทควันโด ประเภทต่อสู้ ที่หอประชุม ทีปังกรรัศมีโชติ ม.ราชภัฏศรีสะเกษ ชิง 4 ทอง ไฮไลต์ รุ่นไม่เกิน 73 ก.ก. หญิง กานต์ธิดา แสงสิน ดีกรีเหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงบูเอโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา จากปทุมธานี พลิกพ่าย ชนาธินาถ ชุมภู จากนครศรีธรรมราช ตั้งแต่รอบแรก ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย โดย ชนาธินาถ ชุมภู สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ โดยในรอบชิงชนะเลิศเอาชนะ ปิยฉัตร นิล เพ็ชร จาก กทม. 14-6 คะแนน
ขณะที่รุ่นอื่นๆ (ทอง) รุ่นไม่เกิน 58 ก.ก. ชาย ปุริม ปุรินทราภิบาล (ปทุมธานี), รุ่นไม่เกิน 63 ก.ก. ชาย ภาณุวัตร ไกลทอง (อุทัยธานี) และ รุ่นไม่เกิน 67 ก.ก. หญิง อุษามณี ศรีสว่าง (นครศรีธรรมราช)
กวาดเหรียญทอง – อนุชา ดวงศรี จอมพลังจ.ชลบุรี คว้าสามเหรียญทอง หลังยกลูกเหล็กทำน้ำหนักรวมได้ 282 ก.ก. รุ่น 67 ก.ก.ชาย เมื่อ 21 มี.ค.
กทม.ครองเจ้าคอร์ต
เทนนิส วันสุดท้าย ชิง 3 ทอง ประเภทหญิงเดี่ยว “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช นักหวดสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี ดีกรีทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่เวียดนาม จากกรุงเทพมหานคร ชนะ ธมจันทร์ มอมขุนทด รุ่นพี่อดีตทีมชาติ จากทีมนครราชสีมา 2-1 เซ็ต สกอร์ 4-6, 7-6 ไทเบรก 7-2 และ 6-4 คว้าเหรียญทองไปครอง และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของเจ้าตัวในครั้งนี้
ด้านชายเดี่ยว กษิดิศ สำเร็จ นักหวดทีมชาติไทย จากกรุงเทพฯ ชนะ ธนเพชร ฉันทะ จากสุพรรณบุรี 2-0 เซ็ต 6-4, 6-2 คว้าเหรียญทองไปครอง โดยเหรียญทองนี้เป็นเหรียญทองที่ 2 ของกษิดิศใน “ศรีสะเกษเกมส์” ต่อจากประเภทชายคู่ ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังได้อีก 1 เหรียญทองแดงจากประเภททีมชาย
นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังได้อีก 1 เหรียญทอง ในประเภทคู่ผสม จากวรรษชล สวัสดี และชญานนท์ แก้วสุทอ ที่ในรอบชิงฯ ชนะพัชรพล กาวิน และธมจันทร์ มอมขุนทด จากทีมนครราชสีมาไปได้ 2-1 เซ็ต 5-7, 6-2 และซูเปอร์ไทเบรก 12-10 ทำให้กรุงเทพฯ ครองตำแหน่งเจ้าคอร์ตในกีฬาเทนนิส จากผลงาน 6 ทอง 1 ทองแดง โดยได้ 6 เหรียญทองจาก ประเภททีมหญิง, ชายคู่, หญิงคู่, ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว และคู่ผสม ส่วน 1 ทองแดง ได้จากประเภททีมชาย
