เมื่อวันที่ 23 มี.ค. รอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีแผนจะเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำชาติเศรษฐกิจใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี 20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องของชาติตะวันตกให้งดเชิญรัสเซียเข้าร่วม หรือถอดถอนสมาชิกภาพพ้นกลุ่มจี 20
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยตรงจากนางลุดมิลา โวโรบิเยวา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงจาการ์ตา เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินมีความต้องการที่จะเดินทางมาประชุม จี 20 แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ อีกหลายด้าน รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19
ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวปกป้องรัสเซียว่าเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่มจี 20 และไม่มีสมาชิกใดมีอำนาจถอดถอนสมาชิกอื่นออกจากกลุ่มได้
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางท่าทีของสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรที่กำลังต้องการให้ถอดถอนรัสเซียพ้นจากสมาชิกภาพของกลุ่มจี 20 เพื่อลงโทษรัสเซียที่ก่อสงครามในประเทศยูเครน แต่คาดว่าข้อเสนอจะถูกวีโต้โดยชาติสมาชิกอื่นที่มีความใกล้ชิดกับรัสเซีย ส่งผลให้หลายฝ่ายคาดว่าการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นอาจมีหลายชาติบอยคอต
นางโวโรบิเยวายังกล่าวด้วยว่า การประชุมจี 20 เป็นเวทีการหารือกันด้านเศรษฐกิจ ไม่ใช่เวทีการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน พร้อมเตือนด้วยว่าการตัดสินใจขับรัสเซียออกจากกลุ่มจี 20 นอกจากไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกแล้วยังทำให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวยากขึ้นด้วย ส่วนทางการอินโดนีเซียนั้นปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
เดินสาย – ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวสุนทรพจน์ขอการสนับสนุนผ่านระบบวิดีโอลิงก์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในชาติที่ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย เมื่อ 23 มี.ค. (รอยเตอร์)
ด้านความคืบหน้าสงครามในประเทศยูเครน สมรภูมิทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศโดยเฉพาะที่เมืองมาริอูโพลกำลังเข้าขั้นวิกฤต หลังมีพลเรือนอีกกว่า 1 แสนคนติดอยู่ภายในเมืองไม่สามารถหนีออกมาได้กำลังเผชิญกับความอดอยาก ไม่มีทั้งอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค ท่ามกลางการต่อสู้อย่างดุเดือดบนภาคพื้นดินของฝ่ายยูเครนและรัสเซียที่บุกเข้าสู่ใจกลางเมือง โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือเพนตากอนเผยว่า รัสเซียใช้การยิงสนับสนุนอย่างไม่หยุดยั้งจากปืนใหญ่และขีปนาวุธที่มาจากกองเรือรบรัสเซียในทะเลอาซอฟ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า พลเรือนที่ติดอยู่ในเมืองมาริอูโพล นั้นกำลังเผชิญกับความอดอยาก ท่ามกลางการต่อสู้อย่างดุเดือดบนภาคพื้นดินของฝ่ายยูเครนและรัสเซียที่บุกเข้าสู่ใจกลางเมือง และย้ำว่ายินดีจะเจรจาทุกเรื่องหากได้คุยกับประธานาธิบดีปูติน
นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็นกล่าวถึงสงครามที่เกิดขึ้นว่าไร้เหตุผลสิ้นดี และต่อให้กองทัพรัสเซียยึดครองเมืองมาริอูโพลได้ก็ต้องต่อสู้แบบบ้านต่อบ้าน ถนนต่อถนน จึงเป็นสงครามที่รัสเซียไม่มีวันชนะ ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องจบลงที่โต๊ะเจรจาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามสุดขั้วขั้นล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น ส่งผลให้เพนตากอนตอบโต้ว่าเป็นถ้อยคำที่อันตรายเพราะไม่ยอมตัดความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธดังกล่าวออกไป
