ถือเป็นเรื่องช็อกของวงการฟุตบอลทั่วโลกหลังอิตาลี ทีมแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 และหนึ่งในทีมมหาอำนาจลูกหนังที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ได้ หลังพ่ายต่อ นอร์ทมาซิโดเนียคาถิ่นสตาดิโอ เรนโซ บาร์เบรา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป รอบเพลย์ออฟ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา จากประตูชัยของอเล็ก ซานดาร์ไตรคอฟสกี นาที 90+2
จากผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นทำให้ทัพ “อัซซูรี่” พลาดไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 หนติดต่อกัน หลังจากเมื่อปี 2018 ก็ตกรอบคัดเลือก
“ฤดูร้อนที่แล้วเป็นความสุขที่สวยงามที่สุด ตอนนี้คือความผิดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันไม่ง่ายเลยที่จะคิดถึงเรื่องอื่น ผมเสียใจมากสำหรับเด็กๆ ผมเป็นโค้ช ผมเป็นคนรับผิดชอบคนแรก” โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมชาติอิตาลีให้สัมภาษณ์หลังเกมดังกล่าว
การที่อิตาลีตกรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลกนั้นสร้างความผิดหวังให้กับทั้งแฟนๆ ในบ้านเกิด รวมถึงแฟนบอลทั่วโลก โดยสื่ออิตาเลียนหลายสำนักต่างมองว่าการตกรอบดังกล่าวถือเป็นหายนะ และอิตาลีชุดนี้ได้สูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเองภายใต้การคุมทัพของมันชินี
ล่าสุดบรรดาสื่อชั้นนำของต่างประเทศวิเคราะห์ถึงปัญหา และสิ่งที่ควรแก้ไขเพื่อให้อิตาลีกลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
เชื่อมสัมพันธ์กับเซเรีย อา
สำหรับทีมชาติอิตาลีกับกัลโช เซเรีย อา ควรจะเป็น 2 องค์กรที่ทำงานร่วมกันมากที่สุด อย่างไรก็ตามด้วยปัญหาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานก็มีผลไม่มากก็น้อยให้ทัพอัซซูรี่ตกรอบฟุตบอลโลกในครั้งนี้
โดยก่อนหน้านี้สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) ได้เคยขอให้กัลโช เซเรีย อา เลื่อนการแข่งขันในเกมลีกเพื่อให้ทีมชาติเตรียมตัวสำหรับฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเพลย์ออฟ ทว่าโดนปฏิเสธทำให้ทีมชาติอิตาลีกับกัลโช เซเรีย อา ควรต้องหันหน้าเข้ามาคุยอย่างเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถพัฒนาและเดินหน้าควบคู่ไปด้วยกัน
ผ่าตัดทีมครั้งใหญ่
อิตาลีชุดที่เพิ่งกระเด็นตกรอบฟุตบอลโลกหนนี้แทบจะเป็นแข้งชุดเดียวกันกับที่พาทีมชาติคว้าแชมป์ยูโรมาครอง นำมาโดย เลโอนาร์โน โบนุชชี, จอร์โจ คิเอลลินี, จอร์จินโญ และชิโร อิมโมบิเล เป็นต้น
ถึงกระนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่านักเตะกลุ่มนี้มีอายุมากแล้วซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะรักษาสภาพความฟิต รวมถึงผลงานในสนามด้วย
อย่างไรก็ตาม มันชินีอยู่ใน “สถานการณ์บังคับ” ต้องเรียกผู้เล่นหน้าเดิมๆ ในทุกตำแหน่งมาติดทีมชาติ เนื่องจากมีตัวเลือกที่เป็นแข้งหน้าใหม่น้อย โดยเฉพาะในกัลโช เซเรีย อา
รายงานเปิดเผยว่า ตอนนี้สโมสรหัวแถวในอิตาลีมีนักเตะอายุต่ำกว่า 21 ปี เฉลี่ยแค่ทีมละ 2.7 คน ได้เล่นรวมกัน 4% ของระยะเวลาในเซเรีย อา และนอกจากนั้นแข้งอายุต่ำกว่า 21 ปี 80% มักได้ลงสำรองหลังนาที 70 ซึ่งแทบจะไม่เห็นผลงานของผู้เล่นกลุ่มนี้เลย
ถึงกระนั้นบรรดาผู้เล่นหน้าเก่าบางรายก็ไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองแล้ว ดังนั้น มันชินีคงต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยการผลัดใบผู้เล่นชุดนี้ที่มีชื่อชั้นแต่ผลงานไม่ดี และลองให้โอกาสดาวเตะสำรองหรือผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง ซานโดร โตนาลี หรือ นิโคโล ซานนิโอโล ให้ขึ้นมาเป็นแกนหลัก
เปลี่ยนแปลงกุนซือ
แน่นอนว่าคนที่ต้องรับผิดชอบกับผลงานที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือ โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมแม้จะเพิ่งประสบความสำเร็จด้วยการพาทีมซิวโทรฟี่ยูโร 2020 มาก็ตาม
โดยสื่ออิตาเลียนต่างออกมาโจมตีมันชินีว่าเหมือนทำ “เวทมนตร์” หายไป เนื่องจาก “อัซซูรี่” ขาดความสร้างสรรค์ในการเล่นเหมือนกับยุคก่อนที่เขาจะเข้ามาคุมทัพ
นอกจากนั้นอิตาลีชุดนี้ยังมักจะพลาดรายละเอียดซึ่งส่งผลกระทบต่อพวกเขาโดยตรง เช่น การชวดคว้าตั๋วตั้งแต่รอบคัดเลือก หรือการจบสกอร์ไม่เฉียบคมทั้งๆ ที่มีโอกาสถึง 32 ครั้งในเกมพ่ายนอร์ทมาซิโดเนีย
โดย “สปอร์ต มีเดียเซต” เผยว่า เอฟไอจีซีได้ทาบทามสเตฟาโน ปิโอลี กุนซือเอซี มิลาน ในการเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติอิตาลีคนใหม่ ขณะที่ “กัซเซตตา เดลโล สปอร์ต” ระบุเอฟไอจีซีได้เล็ง ฟาบิโอ คันนาวาโร และคาร์โล อันเชล็อตติ เป็น 2 แคนดิเดตหากมีการปลดมันชินีออกจากตำแหน่งจริง
