จับคู่รับศึกหนักในละครดราม่าสุดเข้มข้น “ซ่านเสน่หา” ช่อง 3 สำหรับนางเอกสาว ‘มิ้นต์’ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง กับพระเอกหนุ่ม ‘เต้ย’ พงศกร เมตตาริกานนท์
งานนี้เรียกว่าเป็นการท้าทายฝีมือทางการแสดงของทั้งคู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสาวมิ้นต์ ที่ต้องพลิกบทบาทครั้งใหญ่

คาแร็กเตอร์ของแต่ละคนใน “ซ่านเสน่หา” ?
มิ้นต์ – “มิ้นต์รับบท ลลิตา ผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว เป็นครอบครัวคนจีนที่ถูกคลุมถุงชน เป็นผู้หญิงที่ถูกกดเอาไว้อยู่ใต้ความเชื่อฟังของพ่อ เชื่อฟังสามี ไม่สามารถจะแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอะไรออก มาได้”
เต้ย -“ผมรับบท หมื่นไมล์ ครับ เป็นคนที่โตมาในครอบครัวที่อบอุ่น แต่มีปมผิดหวังกับความรักมาก่อนกับรุตระวี (พลอย ชิดจันทร์) ซึ่งเป็นแฟนเก่า เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองพอสมควร อยากได้อะไรต้องได้ แต่โชคดีที่มีคุณปู่คุณย่าคอยให้คำแนะนำที่ดีและคอยชี้แนะให้เราเติบโตมา สูญเสียพ่อแม่แต่อบอุ่นคนรอบข้าง”

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มิ้นต์ได้รับบทท้าทายกับการแสดงมากๆ พลิกไปเลยใช่ไหม?
มิ้นต์ – “เรียกว่าเป็นดราม่าที่เข้มข้นมากขึ้นค่ะ ที่ผ่านมาอาจจะเห็นมิ้นต์ในละครใสๆ น่ารัก พอมาเรื่องนี้เป็นชีวิตที่ผ่านการแต่งงาน แล้วเป็นการแต่งงานคลุมถุงชน และถูกสามีทำร้าย ก็จะเป็นชีวิตที่หนัก ขมขื่น ไม่มีความสุข ถูกกดทุกอย่าง หนักสุดสำหรับมิ้นต์เลยในแนวดราม่าอีกแบบหนึ่ง ที่ผ่านมาจะเป็นดราม่าชีวิต อันนี้จะเป็นดราม่าเรื่องความรัก คือผ่านการแต่งงาน แล้วต้องก้าวข้ามผ่านผู้หญิงที่มีตำหนิ ยากมากค่ะ ต้องไปหาครูแอ๊กติ้งเพิ่มเติม เป็นเรื่องที่ไกลตัวด้วยค่ะ”

เครียดไหมเพราะบทแซ่บมาก?
มิ้นต์ – “เครียดค่ะ ไมเกรนขึ้นเลย เพราะร้องไห้เยอะมาก”
เต้ย – “มิ้นต์จะหนักสุด หนักมากๆ มากกว่าทุกคน”

เครียดขนาดไหน?
มิ้นต์ – “ช่วงที่ถ่ายเครียดโดยไม่รู้ตัว ปกติมิ้นต์จะไม่ชอบเก็บความเครียดหรืออะไรที่หนักๆ ไว้ในตัว แต่ตอนนั้นเหมือนเราต้องอยู่ในนั้นหลายวัน แล้วตัวก็เป็นอะไรไม่รู้ผิวหนังลอกไม่มีสาเหตุ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็รักษาไม่หาย จนต้องไปหาหมอจีนกินยาปรับสมดุลในร่างกาย เพราะเครียดเกินไป ผิวหนังลอกเป็นแผ่นเลย หมอที่โรงพยาบาลบอกไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้ เดินไปนึกว่าหิมะร่วง (หัวเราะ) ก็เป็นอยู่นานกว่าจะรักษาหาย ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ โอเคตั้งแต่ท้ายๆ เรื่องแล้ว พี่ตู่ (ปิยวดี มาลีนนท์) เขาเคยหาหมอผิวหนังจีนอยู่แล้ว เขาเลยให้มิ้นต์ไปดูกินยา ก็โอเคค่ะ ไม่เป็นแล้ว”








Advertisement

ซ่านเสน่หา ท้าทายเรายังไงบ้าง?
มิ้นต์ – “ท้าทายค่ะ เป็นดราม่าอีกรสชาติหนึ่ง เปิดเรื่องมาก็ผ่านการแต่งงานมาแล้วต้องการหย่า ต้องการพิสูจน์ความเป็นลูกผู้หญิงให้ทุกคนเห็น แล้วมาเจอรักใหม่อีก ก็ต้องก้าวผ่านเลิฟซีนที่มิ้นต์ไม่เคยเล่นเลิฟซีนแนวนี้ ปกติจะหอมแก้มกุ๊กกิ๊ก อันนี้จะขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง”

ดุเดือด?
มิ้นต์ – “(หัวเราะ) ไม่เคยเล่นอ่ะ”
เต้ย – “มีเลิฟซีนในน้ำ ตอนหนึ่งที่ถ่ายยากๆ หน่อยก็เป็นวันที่เย็นที่สุดในประเทศไทย เป็นเลิฟซีนในน้ำปากสั่นๆ”
มิ้นต์ – “คือความรักเรื่องนี้ไม่ใช่ว่ามาถึงก็เลิฟซีนกันเลย มันจะค่อยๆ ไต่ระดับไป ไม่ได้มาถึงแล้วดุเดือดเลย แล้วซึ่งคนนี้ (ชี้ไปที่เต้ย) ได้ฉายาในเรื่องว่าหื่นมาอยู่แล้ว (หัวเราะ) เข้ามาก็จะลวนลามตลอด ซึ่งเราก็จะคอยเบรก”
เต้ย – “เขามีความคิดไงว่าความรักคือการจะต้องสัมผัส ก็มอบความรักให้เขาโดยการสัมผัสใกล้ชิดอบอุ่น”

หมื่นไมล์เป็นผู้ชายคลั่งรักเหรอ?
เต้ย – “ครับ เขาเคยสูญเสียคนรักไปแล้วพอมาเจอคนนี้เขาก็รักแบบไม่มีเหตุผล อยากได้อะไรก็ได้ อยากได้งานเขาก็หาให้ คือตามใจ ไปรับไปส่ง ทำให้ทุกอย่าง เรียกได้ว่าคลั่งรักมากๆ”

สำหรับเต้ยเข้าใจไหมว่าคนคลั่งรักจะต้องเป็นแบบไหน?
เต้ย – “เข้าใจนะ เหมือนโลกทั้งใบมีแต่เขา อยากเห็นเขาและอยากอยู่ใกล้ อยากใช้ชีวิตกับเขาตลอดเวลา”

ส่วนตัวเราเป็นคนคลั่งรักเหมือนหมื่นไมล์ไหม?
เต้ย – “ไม่ค่อยครับ ถ้าคลั่งรักก็ไม่ค่อยมีเวลาทำงานแล้ว (หัวเราะ) หมื่นไมล์ไม่ทำงานเลยเหรอ ยังสงสัยตัวละครตัวนี้อยู่เลย มันคลั่งรักมากๆ สั่งงานแล้วก็ไป มาเฝ้าแต่ลลิตา เหมือนไม่ทำงานเลย”

เรื่องนี้มิ้นต์เปลี่ยนลุกส์ตัดผมครั้งแรก?
มิ้นต์ – “ใช่ค่ะ เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ผม ก็คิดหนักมาก แต่พออ่านบทก็รู้สึกว่ามันต้องตัดแหละ เพราะมันคือการที่เราอยากจะทิ้งใครสักคนแล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะลลิตาเป็นคนที่จะทรานฟอร์มมา เป็นคนเข้มแข็งได้เขาต้องยอมเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต มันก็คือการเปลี่ยนเขาไปเลย ก็ทำให้ภาพชัดขึ้นไปเลย จากที่เราผมยาวถูกกดขี่ แล้วเปลี่ยนมาเป็นอีกคนหนึ่งก็ต้องตัดผม ก็โอเคตัดค่ะ (ยิ้ม)”

สิ่งที่ยากที่สุดของมิ้นต์ในเรื่องนี้คืออะไร?
มิ้นต์ – “(หัวเราะ) คงเป็นการเล่นเลิฟซีน”

ดราม่ายังไม่ยากเท่าเลิฟซีนใช่ไหม?
มิ้นต์ – “ความใกล้เคียงในชีวิตถ้าเปรียบเทียบความยากคือดราม่า เคยเล่นละครดราม่ามาก็เข้าใจจุดนั้น แต่ความเลิฟซีนคือเราเป็นคนไม่มี คือไม่มีในชีวิตจริง ไม่เข้าใจความรู้สึก ไร้ความทะนุถนอม เราก็จะเป็นพวก เฮ้ย หวัดดีอะไรแบบนี้ อาจเป็นเพราะที่บ้านมีแต่เด็กผู้ชาย พี่ตู่ก็จะบอกว่าเวลาลูบไล้เต้ยเบามือทะนุถนอมหน่อยนะ ก็เลยยากหน่อยค่ะ”

หลายเทกไหมเลิฟซีน?
มิ้นต์ – “มันไม่ได้เขิน มันไม่เป็น(หัวเราะ)”
เต้ย – “มุมกล้องด้วย บางทีมุมกล้องไม่ได้แสงไม่ได้เขาอาจจะต้องการจังหวะที่แสงสวยๆ มุมสวยๆ”
มิ้นต์ – “เลิฟซีนในเรื่องนี้ไม่ได้เยอะ แต่แค่เขาจะทำให้มันดูอาร์ต แสงไฟขาวๆ มืดมนเป็นภาพค่อยๆ เลื่อนลง จะค่อยๆ ไล่ลำดับไปในส่วนของร่างกายเป็นจุดๆ (หัวเราะ)”

บทบาทดูเข้มข้นและท้าทายฝีมือทั้งคู่ อยากรู้ว่าพอมาแสดงครั้งนี้ทำให้เราได้พัฒนาได้เรียนรู้หรือเปิดมุมมองด้านการแสดงบ้างไหม?
เต้ย – “สำหรับผมนะมันละเอียดขึ้นครับ เพราะด้วยบทค่อนข้างซับซ้อนและค่อนข้างยาว เราก็ต้องเล่นกับมันค่อนข้างละเอียดมากขึ้น ต้องใช้สมาธิมากขึ้น ฉากหนึ่งอาจจะเป็น 4 หน้า 6 หน้าเล่นติดต่อกันเราก็ต้องเล่นยาวไปเลย”
มิ้นต์ – “ใช่ค่ะ อย่างที่พี่เต้ยบอก บทอาจารย์แดง (ศัลยา สุขะนิวัตติ์) คือไม่ใช่แค่ว่าเขาให้เราไปทำอันนี้ บอกประโยคเขาให้เราไปทำแบบนี้สุดท้ายเปลี่ยนประโยคสลับความรู้สึกเราเป็นอีกแบบหนึ่งในทุกๆ ไดอะล็อกค่อนข้างยาว เพราะฉะนั้นเราต้องตีความ และเข้าใจบทมาก่อนที่จะมาหน้ากล้อง คือ ผู้กำกับฯ ก็จะตีความอีกแบบนึง เหมือนใครอ่านอะไรมาตีความแบบไหน ความยากของเรื่องนี้คือเราต้องมาเช็กให้มารวมกันให้ได้หลังจากนี้ การถ่ายหลายแบบหลายเทกหน่อย ลองดูว่าอันไหนดีที่สุด”

ทำไมแฟนละครถึงห้ามพลาดละครเรื่องนี้?
เต้ย – “จะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครและฝีมือของเราด้วย เพราะบอกได้เลยเรื่องนี้มิ้นต์หนักมากแล้วก็เต็มที่มาก คือมิ้นต์ต้องเป็นตัวละครที่อายุมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าด้วย ก็อยากให้เห็นพัฒนาการของเราสองคนแล้วก็นักแสดงคนอื่นด้วยครับ”
มิ้นต์ – “ทุกตัวละครมีความเข้มข้น ในพาร์ตในสีของตัวละครของเขาเอง คือทุกคนมีบทนำที่ท้าทายหมด แต่ละตัวละครจะมีด้านของตัวเอง ไม่อยากให้ทุกคนพลาดแต่ละโมเมนต์ค่ะ ทุกวันจันทร์-อังคาร 20.30 น. ทาง ช่อง 3 หรือทางออนไลน์ได้ทาง 3 Plus”

วีรนุช จันทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน