กลางเดือนพ.ค.นี้-เดินสายโรดโชว์ดึงดูดญี่ปุ่นลงทุน
‘สุพัฒนพงษ์’ นำทีมเศรษฐกิจแถลงผลงานกลางเดือนพ.ค.นี้ ลั่นพร้อมออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม หากมีปัญหามากกว่านี้ วอนประชาชนประหยัดพลังงานคนละ 10% ผู้ประกอบการ ไม่ผลักภาระให้ประชาชน เร่งเดินสายดึงดูดญี่ปุ่นลงทุน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมการให้รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแถลงผล การทำงานในช่วงกลางเดือนพ.ค.นี้ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะเจอ ทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอีก ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอแบบนี้
“10 มาตรการที่ดำเนินการแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ไปมากกว่านี้ ก็มีมาตรการเพิ่มได้ ต้องติดตามสถานการณ์โลกให้ดี เราไม่ประมาท เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ต้องรับฟังทุกฝ่าย วันนี้ไม่มีใครเก่งกว่าใคร เคยเจอที่ไหน เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งเรื่องแพร่ระบาด โควิด-19 เกิดความขัดแย้งของมหาอำนาจจนทำให้ราคาพลังงาน สูงขึ้น ซึ่งวิกฤตเงินเฟ้อ ข้าวของแพง จะแก้ได้ ขอให้ประชาชน ช่วยกันประหยัดพลังงานคนละ 10% ขณะที่รัฐบาลก็เข้าไปช่วยกลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบการก็ต้องลดต้นทุนการผลิต และอย่าส่งต้นทุนที่สูงขึ้นให้ประชาชน ซึ่งเชื่อว่าทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อตรึงราคาสินค้าให้มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด”
สำหรับตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้ ยังเชื่อตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศออกมาว่าเฉลี่ยทั้งปีที่ 3-5% ส่วนราคาสินค้าเพิ่มสูงมากจนจะดันเงินเฟ้อขึ้นไป 4-5% หรือมีคนที่มองว่าอาจจะสูงกว่านี้ ขอให้ดูข้อมูลที่แท้จริงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงไป
อย่างไรก็ตาม ธปท.มองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมกับเงินเฟ้อสูง จะไม่เกิดขึ้น ส่วนข้อเสนอที่ส.อ.ท. ขอส่วนลดค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ให้ประชาชนที่ใช้ไฟมากกว่าเดือนละ 300 หน่วยนั้น ส่วนตัวเห็นว่า 300 หน่วยน่าจะเพียงพอแล้ว
สำหรับกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นร่วมกับ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระหว่างวันที่ 19-23 เม.ย. 2565 ที่กรุงโตเกียว และจังหวัดคานากาวะ ตั้งเป้าหมายชักชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ในไทย ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ อุตสาหกรรมกลุ่มเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) การท่องเที่ยวและบริการ
โดยไทยได้ออกวีซ่าประเภทพิเศษคือ วีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa : LTR อายุ 10 ปี สำหรับ 4 กลุ่มคือ ผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุ ผู้ที่ต้องการทำงานจากไทย และบุคลากรที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
