เอเอฟพีและบีบีซีรายงานวันที่ 24 เม.ย. ถึงสถานการณ์สงครามในยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ท่ามกลางการจับตาความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงว่านายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ มีกำหนดเดินทางมายังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเยือนพื้นที่สมรภูมิสะเทือนโลกนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่าผู้นำชาติยุโรปหลายคนเดินทางเยือนยูเครนเพื่อหารือและแสดงจุดยืนสนับสนุนประธานาธิบดีเซเลนสกีในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงประธานาธิบดีอันด์แชย์ แซบัสเตียน ดูดา แห่งโปแลนด์ นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ แต่สหรัฐซึ่งเป็นแกนนำประเทศที่ให้ความ ช่วยเหลือทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ยังไม่เคยส่งเจ้าหน้าที่มายังยูเครน อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อแถลงการณ์ของนายเซเลนสกีที่ระบุว่านายบลิงเคนและนายออสตินจะเยือนยูเครน

ประธานาธิบดีเซเลนสกียังกล่าวเรียกร้องครั้งใหม่ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ร่วมหารือเพื่อยุติสงคราม “ผมคิดว่าใครก็ตามที่เริ่มต้นสงครามนี้จะสามารถยุติมันได้” นายเซเลนสกีระบุอีกว่าไม่กลัวที่จะพบหน้านายปูติน แต่ย้ำว่ายูเครนจะทิ้งการเจรจากับรัสเซียหากเจ้าหน้าที่ทหารยูเครนที่ยังตรึงกำลังปกป้องเมืองมารีอูโปลถูกกองทัพรัสเซียสังหาร

ทั้งยังตำหนินายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียในวันที่ 26 เม.ย. ก่อนเดินทางเยือนกรุงเคียฟในภายหลัง

ขณะที่แถลงการณ์จากยูเอ็นระบุว่านายกูเตร์เรสจะเดินทางไปกรุงอังการา ประเทศตุรกี เพื่อหารือกับประธานาธิบดีเรเจ็ป ไตย์ยิป เอร์โดอัน ถึงความพยายามยุติสงครามยูเครน จากนั้นจะพบปะกับประธานาธิบดีปูติน และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ที่กรุงมอสโก และในวันพฤหัสบดีที่ 28 เม.ย. นายกูเตร์เรสจะหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน

ทารกเซ่นศึก – หน่วยฉุกเฉินช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยในเหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองโอเดซา ทางตอนใต้ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย ในจำนวนนี้มีทารกอายุเพียง 3 เดือนรวมอยู่ด้วย และเกือบ 20 คนได้รับบาดเจ็บ (รอยเตอร์)

วันเดียวกัน กองกำลังรัสเซียยังระดมโจมตีพื้นที่ทางภาคตะวันออกและตอนใต้ของยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเหตุยิงถล่มเมืองโอเดซาคร่าพลเรือน 8 ราย ในจำนวนนี้มีทารกอายุเพียง 3 เดือนรวมอยู่ด้วย และเกือบ 20 คนได้รับบาดเจ็บ นายเซเลนสกีกล่าวประณามว่าการ เข่นฆ่าพลเรือนและเด็กๆ เหมือนเป็นแนวคิดใหม่ประจำชาติ และว่าฆาตกรเหล่านี้ต้อง รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงโจมตีว่ากองกำลังพิเศษยูเครนในเมืองโอเดซากำลังเตรียมปลุกปั่นสถานการณ์ด้วยการใช้สารเคมีเป็นพิษและนั่นอาจทำให้รัสเซียทำลายเป็นฝ่ายที่ถูกกล่าวหา ส่วนสถานการณ์ในเมืองมารีอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ตอนใต้ของยูเครน ยัง น่าเป็นห่วง หลังจากความพยายามอพยพประชาชนจำนวนมากที่ยังตกค้างล้มเหลวอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน