ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนมี.ค. 2565 เพิ่ม 172,671 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.25% จับตาใกล้ชิดสงครามยืดเยื้อกระทบยอดผลิตทั่วโลกหาย 2.7-2.8 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนมี.ค. 2565 มีทั้งสิ้น 172,671 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.25% จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 32.16% รองรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นปลายเดือนมี.ค.-ต้นเดือนเม.ย. และชดเชยวันหยุดยาวในเดือนเม.ย. ที่รัฐบาลให้จัดงานสงกรานต์ได้

ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกผลิตได้ 85,538 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.44% เพราะขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ ในบางรุ่น

ส่วนของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมี.ค. 2565 อยู่ที่ 87,245 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.1% เนื่องจากรัฐบาลคลายการล็อกดาวน์มากขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการใช้เงินและส่วนลด ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กำลังซื้อดีขึ้น รวมทั้งการส่งมอบรถยนต์ให้ผู้จองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ด้วย

สำหรับการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมี.ค. 2565 อยู่ที่ 93,840 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.21% จากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงผลิตและส่งออกลดลงในตลาดรถยนต์นั่ง เช่นเอเชีย ออสเตรเลีย และยุโรป ยังคงต้องติดตามการสู้รบในยูเครนอย่างใกล้ชิดต่อไปที่อาจทำให้การขาดแคลนวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น

“ยอมรับกังวลการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งราคาสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ และพลังงานที่สูงขึ้นจากสงครามในยูเครนและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ จึงต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อย่างใกล้ชิด เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เริ่มมีบางบริษัททั้งในรัสเซียและยูเครนหยุดผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แล้วหากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้ออาจส่งผล กระทบต่อยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกหายไป 2.7-2.8 ล้านตัน”

ภาพรวมยอดรถยนต์ที่ผลิตในเดือนม.ค.-มี.ค. 2565 มีจำนวน 480,078 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.06% เป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 234,928 คัน เพิ่มขึ้น 20.39% และผลิตเพื่อส่งออก 245,150 คัน ลดลง 9.44%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน