‘ดีแทค’เดินหน้าพันธกิจ ติดสปีดดิจิทัลแบบ‘ดีทั่วดีถึง’
เดินหน้าปฏิบัติการพันธกิจ “ดีทั่วดีถึง” อย่างต่อเนื่องสำหรับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “ดีแทค” และหนึ่งในพันธกิจสำคัญคือ กลยุทธ์ดิจิทัลมุ่งสู่บริการที่ “มากกว่า” โทรคมนาคม ด้วยการสร้างดิจิทัลอีโคซิสเต็ม และเปลี่ยนผ่านโมเดลปฏิบัติการสู่ดิจิทัล
หวังลดอุปสรรคในการเข้าถึงและมุ่งเน้นให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในแบบ “ดีทั่วดีถึง”
โดยเมื่อวันอังคารที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารดีแทค พบปะกับผู้บริหารมติชน ประชาชาติธุรกิจ และข่าวสด เพื่อพูดคุย พร้อมบอกเล่าถึงพันธกิจดังกล่าว สู่เป้าหมาย dtac for all
นำโดย ฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด สุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ ผู้อานวยการอาวุโส กลุ่มการตลาด พุทธิภา เชียรเตชากุล Product Champion ธัช อังวัฒนพานิช Product Champion และอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด ของดีแทค กล่าวว่า การใช้ดิจิทัลของลูกค้าดีแทคเติบโตอย่างมาก จนเป็นปรากฏการณ์ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ดีแทคได้กำหนดวาระติดสปีดดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญ
Advertisement
เเบ่งพันธกิจเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พันธกิจที่ 1.ยกเครื่องระบบปฏิบัติการเป็นดิจิทัล (Digitize the core) เปลี่ยนรูปแบบการทำงานศูนย์บริการดีแทค เป็นแบบไร้กระดาษ 100% ด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากการที่ใช้คนทำงานจำนวนมาก ร้านตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 90% ได้ใช้เครื่องมือดิจิทัล ในกิจกรรมการขายและบริการในแต่ละวัน
ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายดีแทคดิจิทัลเพิ่มขึ้นมาถึง 70% ทั้งแบบเติมเงิน ชำระค่าบริการ และการซื้อบริการเสริมผ่านช่องทางของดีแทคเองและช่องทางอื่นๆ
พันธกิจที่ 2.เร่งเปลี่ยนผ่านการให้บริการและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในแบบเฉพาะตัว (Accelerate digital interaction) ซึ่งดีแทคได้พัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จากการพัฒนา “ดีแทค แอพ” (dtac app) และประสบความสำเร็จจากบริการดิจิทัล ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งค่ายไหน ก็ใช้ได้
ในดีแทค แอพ ประกอบด้วย บริการ “ดีแทค ดีชัวรันส์” (dtac dSurance) ที่ พุทธิภา เชียรเตชากุล Product Champion กล่าวเสริมบริการดังกล่าวว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการดีชัวรันส์ มีผู้สนใจเข้ามาค้นหาแผนประกันภัยที่ มากกว่า 4.5 ล้านครั้ง ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ความต้องการในทุกเดือนเพิ่มขึ้น 80% ทำให้เห็นคนไทยให้ความสำคัญกับการประกันมากขึ้น
บริการ “ดีแทค เซฟ” (dtac Safe) ป้องกันและคุ้มครอง บริการการป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งทาง ธัช อังวัฒนพานิช Product Champion อธิบายเสริมว่า เป็นบริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในลักษณะการป้องกันผ่านระบบคลาวด์ (Cloud-based security) โดยสามารถป้องกันประเภทของการคุกคามทางไซเบอร์บนมือถือได้หลายประเภท ที่จะช่วยปกป้องการโจมตีและจารกรรมทางไซเบอร์ พร้อมบล็อกมัลแวร์ เพื่อทำอันตรายกับข้อมูลในระบบ
โดยระบบจะได้รับการแจ้งเตือนและป้องกันการเข้าใช้งานเว็บไซต์ทันที หากตรวจพบการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือลิงก์ ที่คาดว่ามีความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ตามฐานข้อมูลในระบบ โดยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานโดยระบบจะอัพเดตให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการอัพเดตด้วย ตัวเอง
เพราะที่ผ่านมาต่อปีมีคนไทยถูกโจมตีและหลอกทางไซเบอร์ถึง 20 ล้านครั้ง บริการ dtac Safe จะเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งลูกค้า ดีแทคสามารถโหลดและทดลองใช้บริการได้ฟรี 2 เดือน จากนั้นเสียค่าบริการในอัตราค่า 29 บาทต่อเดือน
บริการ “เกมมิ่ง กับ Gaming Nation” ที่สร้างยอดขายเติบโตถึง 60% จากเปิดตัวไปไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว เสริมด้วยดีแทค เกมมิ่ง ซิม-ซิมเติมเงินสำหรับเกมเมอร์ มาพร้อมเทคโนโลยี ไฮเปอร์เลน เป็นเลนพิเศษที่จัดลำดับการใช้งานในเครือข่าย ถือว่าเป็นบริการที่เป็นไฮไลต์ ซึ่งในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโตโดดเด่น สามารถดึงลูกค้าใหม่ให้กับดีแทคได้อย่างมาก เพราะผู้เล่นเกมในตลาดไทยมีจำนวนมาก
และบริการทางการเงิน กับ “Pay Via dtac” ช่องทางการชำระเงินผ่านดีแทค ซึ่งจะเป็นตัวเลือกการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น การซื้อแอพ, เติมเกม หรือซื้อสติ๊กเกอร์ ทั้งหมดในบิลเดียว ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบ OTP รหัสผ่านใช้ครั้งเดียวเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต
ทำให้สามารถควบคุมแผนทางการเงินได้ในที่เดียว เพราะปัจจุบันลูกค้าต้องการเข้าถึงบริการชำระเงินทางออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการช็อปปิ้งออนไลน์ การเติมเงินในเกม เพื่อซื้ออุปกรณ์ หรือการเพิ่มเน็ต
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนา “ดีแทค แอพ ไลต์” (dtac app Lite) ที่เป็นโมบายแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องดาวน์โหลดไว้ในเครื่องแต่สามารถให้บริการต่างๆ ได้เหมือนดีแทคแอพตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่ไม่สามารถ เข้าถึงบริการด้วยเงื่อนไขทางเทคโนโลยี
“ปัจจุบันมีลูกค้าดีแทคสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลได้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีลูกค้าดีแทค 7 ล้านคน ใช้งานดิจิทัลของดีแทค และมีลูกค้าดีแทคมากกว่า 46% ใช้งานดิจิทัลแอ๊กทีฟต่อเดือน” ฮาว ริเร็น กล่าว
สําหรับพันธกิจที่ 3.การขยายบริการดิจิทัลให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้นผ่านโมเดลการทำงานแบบเอไจล์ กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น (Go beyond connectivity) โดยออกแบบบริการให้เข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยช่องทางการขายดิจิทัลได้ขยายออกไปอย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ด้วยการก้าวข้ามช่องทางในดีแทคเองขยายสู่ตลาด เช่น Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงโซเชี่ยลมีเดียอย่าง LINE Facebook และ WeChat
เนื่องจากโซเชี่ยลคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซ ที่ขับเคลื่อนโดยโซเชี่ยลมีเดีย ได้เติบโตขึ้นเป็นโมเดลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานระหว่างช่องทางดิจิทัลและหน้าร้าน ซึ่งเข้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อจะขยายการให้บริการไปในช่องทางร้านค้าอื่นๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย
ด้วยโมเดลทั้งหมดนี้ ดีแทคจะมีความคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลง เติบโต และขยายบริการไปสู่บริการที่มากกว่าการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมตามเป้าหมายได้
ฮาว ริเร็นกล่าวอีกว่า แม้ขณะนี้ดีแทคอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนการควบรวมกิจการกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู แต่ปัจจุบันดีแทคยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ ทั้งการลงทุนด้านโครงข่ายในปีนี้ภายใต้งบลงทุน 14,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายยังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง
ตามแผนดีแทคจะดำเนินการขยายโครงข่ายบนคลื่นความถี่ 700 MHz และเปิดให้บริการ 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานทั่วประเทศใน 77 จังหวัด และมีสถานีฐานบนคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz รวมกว่า 18,000 แห่ง ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้
และการลงทุนในระบบดิจิทัลพัฒนาบริการดิจิทัล ตอบรับกระแสการเติบโตของโลกดิจิทัล โดยเร่งการใช้งานดิจิทัลของลูกค้าด้วยการพัฒนาบริการดิจิทัลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างธุรกิจหลักให้เป็นดิจิทัล และให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในแบบ “ดีทั่วดีถึง” ได้ตามพันธกิจ
สำหรับลูกค้าดีแทค 20 ล้านเลขหมายในปัจจุบัน และรายใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคต
