เป็นคนหนึ่งที่ชอบทานมะม่วงทั้งดิบและสุก แต่ยัง ไม่เคยลิ้มชิมรสมะม่วงทับทิมทองเลยสักครั้ง พอสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)ชักชวนให้ไป สวนสระแก้ว อันเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยชุมชน ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว จึงตอบตกลงทันที ที่นี่เป็นอีกสวนที่วช.ให้การสนับสนุน ภายใต้ความ ร่วมมือกับเครือข่ายวิจัยภูมิภาค : ภาคกลาง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) เนื่องจากมีปัญหาขาดแคลนน้ำ ทางทีมวิจัยโดย ผศ. ดีเซลล์ สวนบุรี ต้องใช้วิธีสำรวจแหล่งน้ำใต้ดินด้วยเทคโนโลยีทันสมัยทางธรณีฟิสิกส์ สแกนหาแหล่งน้ำใต้ดินจนสามารถขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลได้ และสร้างแท็งก์กักเก็บน้ำ พร้อม ติดตั้ง “ระบบโซลาร์เซลล์ระบบให้น้ำมะม่วงแบบอัจฉริยะ”

พูดถึงมะม่วงชนิดนี้ เชื่อว่ายังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยไม่รู้จัก ว่ากันว่าป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีอนาคตไกล
ใครเห็นต่างชอบใจเพราะนอกจากจะใหญ่ยักษ์แล้ว ยังมีสีสวยสดน่ากินด้วย เป็นลูกผสมระหว่างมะม่วงชื่อดัง 2 สายพันธุ์ของ ประเทศไต้หวัน คือ เออร์วิน และจินหวง ลักษณะเด่นอยู่ที่ ผลรูปกลมรียาวและอ้วนใหญ่ รสชาติขณะดิบหรือห่ามมันกรอบหวาน ไม่มีเปรี้ยวปน ผลสุกหวานหอมไม่มีเสี้ยนและไม่เละ เนื้อในแน่น สีเหลืองเข้ม เนื้อเยอะ เมล็ดลีบ เปลือกหนาทำให้ไม่ช้ำง่าย เหมาะส่งออก ผลเป็นสีม่วงเข้มจนถึงแดงมีขนาดใหญ่ติดผลปีละครั้ง ให้ผลดกทั้งต้น

‘สวนสระแก้ว’ ของ คุณอรพิน พิทักษากร หรือ ป้าน้อย ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผักผลไม้พรีเมียม อ.วังสมบูรณ์ และยังนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.โอ.สวนสระแก้ว ถือเป็นสวนมะม่วงทับทิมทองที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เพราะมีเนื้อที่ปลูก มากถึง 75 ไร่ ในจำนวนพื้นที่ของสวนทั้งหมด 200 ไร่ ซึ่งปลูก ผลไม้หลากหลาย อาทิ มะละกอฮาวาย มะม่วงทับทิมทอง มะม่วง น้ำดอกไม้ มะม่วงมหาชนก แก้วมังกร มังคุดอินทรีย์ และผัก ออร์แกนิก เป็นบริษัทผู้ทำธุรกิจปลูกและทำตลาด ผลไม้แบรนด์ “สวนสระแก้ว”หรือ ‘SSK’ ส่งขายห้างดังในเมืองไทย และส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ฮ่องกง

ที่ผ่านมามะละกอฮาวายของสวน ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดผลไม้ ในงานเกษตรแฟร์ จัดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน รวมถึงได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (TTM) จากกระทรวงพาณิชย์

อดีตแอร์โฮสเตสวัย 60 กว่า ที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรหลังเกษียณฯ เล่าว่า เริ่มมาทำเกษตรจริงจัง เมื่อปี 2555 โดยไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อนแต่ด้วยใจรัก จึงศึกษาค้นคว้าและลองถูกลองผิดด้วยตัวเอง

ในส่วนมะม่วงทับทิมทองเริ่มปลูกปี 2557 เพราะเห็นถึงศักยภาพของมะม่วงชนิดนี้ทั้งในแง่รสชาติ และสีแดงสะดุดตา ข้างในไม่มีเสี้ยน เนื้อหนาแน่น เมล็ดบาง ตอนดิบหากแก่จัดทานเป็นผลสดได้กับน้ำปลาหวานจะอร่อยมาก พอสุกทานกับข้าวเหนียวมะม่วงกับข้าวเหนียวดำ

ช่วงแรกนำพันธุ์ที่เสียบยอดมาจากไต้หวัน ใช้เวลาปลูก 3 ปี เริ่มออกผล แต่ไม่ควรให้ออกเยอะ พอเลยปีที่ 5 ไปแล้วถึงจะได้ผล เต็มที่ เดิมที่นี่มีปัญหาเรื่องน้ำ ผลผลิตจึง ไม่ได้เยอะ เพราะดอกจะร่วง แต่พอทางทีมวิจัยมก.มาช่วยสามารถแก้ปัญหาเรื่องขาดน้ำ ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ที่นี่ปลูกแบบเกษตรปลอดภัย ไม่ใช่อินทรีย์ แต่ใช้สารเคมีที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเช่นช่วงที่มีแมลงหรือโรครา ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน พอวันไหนมีหมอกมาต้องระวัง สิ่งสำคัญ ที่ต้องทำมากที่สุด คือการตัดแต่งกิ่ง ไม่เกิน 3 เมตร เพื่อการดูแลง่าย เก็บง่าย ห่อง่าย ต้นต้องโปร่ง ให้แดดเข้าถึงกลางต้นจะช่วย ได้มาก อย่าให้กิ่งพัง ช่วงแรกตัดแต่งกิ่ง ผลผลิตจะไม่เยอะ แต่พอผ่านไปผลจะมากขึ้น

ในการขุดหลุมปลูกใช้ความกว้าง-ลึก 50-50 ซ.ม. เพื่อให้รากเดิน และรองพื้นด้วยไตรโครเดอร์มา พอรากเดินสักพักจึงค่อยใส่ ปุ๋ยคอก

มะม่วงทับทิมทองเริ่มเก็บผลผลิตได้ ตั้งแต่เดือนเม.ย. จะเยอะในเดือนพ.ค. จนถึงเดือนมิ.ย. แบรนด์ SSK ขายเป็นกล่องเกรดพรีเมียม อย่างกล่องขนาด 3 ก.ก. ราคา 500 กว่าบาท ส่วนใหญ่ลูกค้าประจำมักสั่งซื้อผ่านออนไลน์

เธอว่า มะม่วงทับทิมทองมีอนาคตแน่นอน เพราะตลาดต้องการเพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับเกษตรกรรายใดที่อยากจะปลูกมะม่วงชนิดนี้ ต้องดูแลให้ดี ทุกขั้นตอน ไม่เหมือนมะม่วง น้ำดอกไม้ พอลูกโต หลังห่อเสร็จก็จบ ขณะที่มะม่วงทับทิมทอง จุดเด่นอยู่ที่ผิว ต้องดูแลผิวให้สวย ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เกรดเอ ต้องแต่งกิ่ง เพื่อให้ได้รับแสงแดดอย่างเหมาะสม ผิวจะได้สวย มีสีแดงเหมือนของญี่ปุ่น ซึ่ง ที่นั่นแสงแดดไม่เหมือนบ้านเราที่แดดแรงมาก ญี่ปุ่นใช้วิธียกลูกขึ้นข้างบน เพื่อให้ผลอยู่เหนือขึ้นไป จะได้สีแดงรอบด้าน แต่สวนในไทยถ้ายกลูกขึ้นไปลูกจะไหม้เกรียมหมด

ในเรื่องการห่อผลนั้น คุณอรพินระบุว่า ห่อเฉพาะลูกที่เป็นเกรด A ไม่ห่อทุกลูก ส่วนหนึ่งเพราะมีปัญหาแรงงาน แต่ถ้าให้ดีควรห่อทุกลูก ซึ่งต้นที่สมบูรณ์แล้ว เกิน 5 ปีไปแล้ว ออกลูก 80-100 ลูก ไม่ควรให้เกิน 120 ลูก ลูกขนาดมาตรฐานประมาณ 8 ขีด หรือ 800 กรัม

หลังจากเก็บผลผลิตเสร็จในเดือนพ.ค. ต้องแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย เน้นหนักไปทางปุ๋ยคอก และ ปุ๋ยเคมี รอบแรกสูตรใส่ 15-15-15 ก่อน รอบๆ ทรงพุ่ม แล้วใส่ปุ๋ยคอกทับไปอีกครั้งเพื่อให้ต้นแข็งแรง พอถึงประมาณ พ.ย. ช่วงสะสมอาหาร ให้สูตรสะสมอาหารสูตร 15-5-25 พอช่วง ปลายม.ค.เป็นช่วงออกดอกเป็นช่วงวิกฤตมาก ต้องระวัง ถ้าเจอเพลี้ยหรือหนอน ผิวจะไม่สวย ต้องใช้สารเคมีป้องกันกำจัด รวมถึงเชื้อราด้วย พอช่วงออกลูกมาเยอะๆ ช่อหนึ่งต้องเก็บไว้ ไม่เกินสองลูก ไม่เช่นนั้นจะแย่งอาหารกัน

สำหรับผลผลิตปีที่แล้วกับปีนี้ ปีนี้คาดหวังได้ 40 ตัน แต่อาจไม่ถึง เพราะที่ผ่านมาเจอพายุร่วงไปเยอะ ขณะที่ปี 2564 ควรได้ปริมาณมาก แต่ได้แค่ 7-8 ตัน เพราะมีปัญหาขาดน้ำ และผิวไม่สวย
“คุณภาพรสชาติมะม่วงทับทิมทองของสวน ใกล้เคียงกับประเทศต้นตำรับอย่างไต้หวัน แต่เรื่องผิวสีอาจสวยสู้ไม่ได้ ตอนนี้กำลังแก้ปัญหาอยู่”

นอกจากปลูกผลไม้นานาชนิดขายแล้ว เจ้าของแบรนด์ ‘SSK’ สวนสระแก้ว ยังแปรรูปผลไม้ในส่วนที่ตกเกรด เช่น ทำเป็นมะม่วงอบแห้ง และเครื่องดื่มทรงลูกบอล (Juice Ball)

นับเป็นอีกสวนที่ทำครบวงจร ทั้งต้นน้ำ-ปลายน้ำ สนใจเข้าเยี่ยมชมสวน หรือซื้อ ผลผลิต ติดต่อสอบถามคุณอรพินได้ที่ 08-1444-5945

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน