ค่ายพี่ใหญ่ โตโยต้า ปล่อยให้เซ็กเมนต์ ครอสโอเวอร์ มินิ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ว่างเว้นอยู่พักใหญ่ หลังจากที่ โตโยต้า อแวนซ่า หมดรุ่นไปก่อนหน้านี้
วันนี้ได้เวลากลับมาทวงคืนตำแหน่งผู้นำตลาด พร้อมอัพเวลจากเดิมเล็กน้อย ด้วยการปล่อย “โตโยต้า เวลอซ” ที่หรูหรา ทันสมัยมากกว่า โตโยต้า อแวนซ่า มาวาดลวดลายแทน

เปิดตัวพร้อมกับจัดทริปทดสอบกันไปก่อนหน้านี้ แต่ด้วยเพราะ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ติดภารกิจ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนั้น
ว่าแล้วตัดสินใจขอยืมมาทดสอบส่วนตัว จัดกันแบบยาวๆ เส้นทางกรุงเทพฯ-จ.ตรัง เอากันให้รู้เรื่องไปเลย ว่าขับทางไกลเป็นอย่างไรบ้าง

ได้รับคำตอบจาก ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์สาวอารมณ์ดีแห่งค่าย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ให้เข้าไปรับได้ทันทีที่ TOYOTA ALIVE Life Style Complex บนถ.บางนา-ตราด ก.ม.3
ก่อนขึ้นรถสำรวจรอบคันกันสักหน่อย กระจังหน้าดีไซน์ขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้าแบบ LED แผ่นกันใต้ท้องรถสไตล์ครอสโอเวอร์
ด้านหลังเน้นความบึกบึน เส้นยาวแนวนอน เชื่อมต่อชุดไฟท้ายทั้งสองฝั่ง เสาอากาศครีบปลาฉลาม

เข้าไปดูในตัวรถ ดีไซน์เน้นความโปร่งโล่งสบาย มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี ขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ ช่องต่อ USB 2 ช่อง สำหรับผู้โดยสารแถวหน้า
แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย บริเวณคอนโซลกลาง ใครมีรุ่นที่รองรับใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาสายให้วุ่นวาย ขณะที่เบาะนั่งแถวสองมีช่องต่อ USB ให้อีก 2 ช่อง

เบาะนั่งแถวสองมีพื้นที่วางขาให้พอสมควร ส่วนเบาะนั่งแถวสามแนะนำให้เป็นการเดินทางไม่ไกล หรือพับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ น่าจะเหมาะกว่า
เย็นทั่วถึงกับแอร์ที่ติดตั้งบนหลังคา ควบคุมจากผู้โดยสารแถวสอง เพิ่ม-ลด รวมถึงปรับทิศทางแรงลม ว่าจะให้เย็นไปถึงแถวสาม หรือเย็นเฉพาะแถวสองก็ยังได้

ออกเดินทาง ก่อนขึ้นทางด่วนย่านบางนา คลาคล่ำไปด้วยเพื่อน ร่วมทางน้อยใหญ่ มอเตอร์ไซค์ เก๋ง ปิกอัพ แต่ที่หนักสุดต้องยกให้รถบรรทุกคอนเทนเนอร์
ดีว่าเจ้า โตโยต้า เวลอซ สูงกว่ารถเก๋งนิดหนึ่ง แต่ยังคงความกะทัดรัด ช่วยให้ทั้งมองไปข้างหน้าได้ไกล แถมไหลลื่นคล่องแคล่วเมื่อยามต้องซอกแซกเร่งแซง
ทำได้อย่างสบายมือ จะติดอยู่หน่อยหนึ่งตรงที่ในย่านความเร็วต่ำจังหวะเปลี่ยนเกียร์ เหมือนจะมีรอยกระตุกนิดๆ ให้ได้รู้สึก โดยเฉพาะกับการคิกดาวน์เรียกกำลังเครื่องยนต์

ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้า ถ.พระราม 2 ผ่านจุดปราบเซียน สะพานพระราม 9 ที่สุดชัน กำลังของเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i 1.5 ลิตร เรียกกำลังมาใช้ได้สูงสุด 106 แรงม้า แรงบิด 138 นิวตัน-เมตร
ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift หรือโหมดแมนวล เพิ่มความสนุกเร้าใจ พร้อมทั้งควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้น
ตัวรถค่อยๆ ไต่ไปแบบไม่รีบร้อน เติมคันเร่งต่อเนื่อง แม้จะไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่ก็ใช่ว่าจะอืดอาดจนน่ารำคาญ หรือหวาดหวั่น
ออกนอกเมืองเริ่มทำความเร็วได้บ้าง จัดเสียเลยจะดีกว่า เติมความเร็วจากที่ทำอยู่ 110 ก.ม.ต่อช.ม. ขึ้นไปเป็น 130-140-150 ก.ม.ต่อช.ม.ได้อย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่อาจจะต้องกุมพวงมาลัยให้กระชับให้มากขึ้น รวมถึงอดทนกับเสียงเครื่องยนต์ที่แทรกเข้ามาในห้องโดยสารชัดเจนอย่างมาก

แต่ก็น่ะ รถสไตล์ครอบครัวปกติขับกันไม่เร็วอยู่แล้ว แค่จะบอกว่ากำลังเครื่องยนต์คันนี้ไปถึงน่ะ แต่ย่านความเร็วที่เหมาะเท่าที่ขับมา 110-120 ก.ม.ต่อช.ม. ไปกันได้แบบชิลชิล
ความนุ่มนวลของช่วงล่างมีมาให้พอประมาณ กับความเป็นครอสโอเวอร์ ขณะที่ความหนึบแน่นในการเข้าโค้ง ซึ่งเส้นทางลงใต้หลายครั้งเจอโค้งบนเนินชัน
เจ้าโตโยต้า เวลอซ ทำได้น่าประทับใจ กระชับฉับไว ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ทริปนี้ขับกันไปรวมระยะทางทั้งสิ้น 2,637 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 14.9-15.3 ก.ม.ต่อลิตร ค่อนไปทางประหยัดอยู่พอสมควร

โตโยต้า เวลอซ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่รุ่น Smart ราคา 795,000 บาท และรุ่นที่นำมาทดสอบนี้ รุ่น Premium ราคา 875,000 บาท
ไปพิจารณากันได้ว่ารุ่นไหนเหมาะกับตัวเอง ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน