มส.มอบฝ่ายปกครองพิจารณามาตรการลงโทษพระยุ่งการเมือง – นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 21/2561 มีมติประกาศให้พระภิกษุปฏิบัติอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้ ให้พระสังฆาธิการปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง ตามคำสั่งมหาเถรฯ ลงวันที่ 2 ม.ค.2538 ห้ามเจ้าอาวาสใช้ ยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้วัดเป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะหรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือให้ใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง และหากมีผู้มาใช้วัดเป็นสถานที่จัดกิจกรรมดังกล่าวโดยพลการให้เจ้าอาวาสเข้าป้องกัน ห้ามปราม หรือระงับมิให้มีกิจกรรมนั้นในวัดต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นให้ขออารักขาจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้น

นายสิทธากล่าวต่อไปว่า สภาพปัจจุบันยังพบว่ามี พระภิกษุบางรูปไม่ปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ และบางรูปเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ หรือที่ปรึกษาในคณะกรรมาธิการ หรือคณะอนุกรรมาธิการ ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่า กรณีพระภิกษุไม่ปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ ในเรื่องห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง มหาเถรฯ มีมาตรการหรือข้อตำหนิโทษประการใด อย่างไรก็ตาม สำนักพุทธฯ จึงได้นำเสนอมหาเถรฯ ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2565 พิจารณาในประเด็น ดังนี้ 1.กรณีที่มีพระภิกษุบางรูปไม่ปฏิบัติตามมติ หรือคำสั่งมหาเถรฯ ควรมีมาตรการและข้อตำหนิโทษประการใด จึงจะ เหมาะสมกับสมณสารูป 2.กรณีพระภิกษุบางรูปไปเป็นกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ หรือที่ปรึกษา ในคณะกรรมาธิการ หรือคณะอนุกรรมาธิการ จะถือว่าเป็นการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ โดยที่ประชุมมหาเถรฯ ได้มีมติมอบคณะกรรมการฝ่ายปกครองของมหาเถรฯ นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา และรายงานให้มหาเถรฯ ทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน