ฆ่าหมู่ซ้ำซาก!รร.ประถม‘เท็กซัส’ – เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่โรงเรียนประถมศึกษาเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 7-10 ขวบ ขณะที่มือปืนนั้นมีอายุ 18 ปี ซื้อปืนให้ตัวเองเป็นของขวัญวันเกิด ก่อเหตุยิงสังหารยายของตัวเองก่อนมาที่สถานศึกษาดังกล่าวและถูกตำรวจวิสามัญ
เหตุที่เกิดขึ้นนับเป็นการกราดยิงในสถานศึกษาที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่เหตุกราดยิงที่เมือง แซนดี้ฮุก รัฐคอนเน็กติกัตเมื่อปี 2555 และก่อให้เกิดการถกเถียงเรื่องความรุนแรงและสิทธิการครอบครองอาวุธปืนขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่แหลมคมอย่างมากในสหรัฐ สร้างความเศร้าโศกและเดือดดาลให้กับประชาคมโลกถึงความรุนแรงซ้ำซากจากอาวุธปืนในสถานศึกษา
สำนักงานความปลอดภัยสาธารณรัฐเท็กซัส ระบุว่า การสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่ามือปืนทราบชื่อภายหลังว่านายซัลวาโดร์ รามอส เป็นชาวอเมริกันที่มีภูมิลำเนาในท้องที่ยิงสังหารยายแท้ๆ ของตนเองที่บ้านก่อนจะเดินทางมาที่โรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น โดยทิ้งพาหนะส่วนตัวไว้แล้วบุกเข้าไปกราดยิงในสถานศึกษาอย่างบ้าคลั่งด้วยอาวุธปืนไรเฟิลและปืนพกพร้อมสวมใส่เสื้อกันกระสุน จากนั้นจึงปะทะกับตำรวจที่เข้าระงับเหตุมีตำรวจบาดเจ็บอย่างน้อย 1 นาย เด็กนักเรียนบาดเจ็บกว่าสิบคนและครูเสียชีวิตอีก 2 ราย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกต่อเหตุที่เกิดขึ้นว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเปลี่ยนความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นมาเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
“ในฐานะประเทศชาติ เราควรต้องถามตัวเองแล้วว่าเมื่อไหร่ที่พวกเราจะลุกขึ้นต่อต้านกลุ่มคนที่ต่อต้านกฎหมายควบคุมอาวุธปืน เมื่อไหร่ที่พวกเราควรจะลงมือทำในสิ่งที่พวกเราทุกคนรู้กันอยู่แก่ใจว่าควรต้องทำอะไร” ผู้นำสหรัฐระบุ ขณะที่นายเกร็ก แอ๊บบ็อต ผู้ว่าการ รัฐเท็กซัส ระบุถึงมือปืนว่าเหนี่ยวไกยิงเหยื่ออย่างเลือดเย็นและไม่เลือกหน้า
สะเทือนขวัญ – บรรดาผู้ปกครองที่เฝ้ารอลูกหลานของตัวเองอยู่ในสภาพเสียขวัญระหว่างเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายเด็กนักเรียนจากโรงเรียนมาที่ศูนย์คุ้มกันหลังมือปืนก่อเหตุ กราดยิง มีผู้เสียชีวิต 19 ราย ที่เมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อ 25 พ.ค. (รอยเตอร์)
