ไก่-ผัก-ปลายังพุ่งยกแผงข้าวสารก็ปรับราคาด้วย

กระอักยาวๆ เบนซินขึ้นอีก 40 สตางค์ ทะลุลิตร 51.26 บาท โซฮอล์ 95 อยู่ที่ 43.85 บาท อี 20 พุ่ง 42.74 บาท มีผลวันนี้ ส่วนดีเซลบี 7, บี 10 และบี 20 ยังอุ้มอยู่ที่ 31.94 บาท กองทุนน้ำมันแจงเหลือสภาพคล่องแค่ 1.2 หมื่นล้าน ยอดติดบักโกรก 7.6 หมื่นล้าน คาดอุ้มราคาน้ำมันได้แค่เดือนเศษ เร่งหาสภาพคล่องเติม มี 2 ทางเลือก กู้เงินตามมติครม.ที่ให้กู้ได้ 3 หมื่นล้าน กลุ่มเครือข่ายรถจยย.- ไรเดอร์บุกกระทรวงพลังงาน ยื่นข้อเรียกร้องให้ลดภาษีโซฮอล์ลิตรละ 5 บาท 6 เดือน ตรึงราคาไม่ให้เกิน 38 บาทตลอดปี 65 ขณะที่สินค้าพาเหรดขึ้นราคายกแผงอีก ผักชีพุ่งกิโล 170 บาท ผักบุ้งโลละ 100 ต้นหอม 95 บาท ผักกาดหอม 85 บาท สันในไก่ก็ขึ้นกิโลละ 100 ส่วนปลาดุกอุยปรับเพิ่มกิโลละ 85 บาท กรมการค้าภายในแจงผลผลิตลดสวนทางกับผู้บริโภคที่ยอดซื้อสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาจำหน่ายปลีกสินค้าอาหารสดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ของกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ ประจำวันที่ 26 พ.ค. 2565 เปรียบเทียบกับช่วงต้นสัปดาห์พบว่า มีสินค้าหลายรายการปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะผักสด เช่น ผักกาดหอม คัด ปรับเพิ่มขึ้น 10 บาท/ก.ก. เป็น 80-85 บาท/ก.ก., ผักชี คัด ปรับขึ้นอีก 10 บาท/ก.ก. ล่าสุดราคาขึ้นไปอยู่ที่เป็น 160-170 บาท/ก.ก., ผักบุ้งไทย (10 กำ) ปรับขึ้น 10 บาท/ก.ก. เป็น 90-100 บาท/ก.ก. และต้นหอม คัด ปรับขึ้น 5 บาท/ก.ก. เป็น 85-95 บาท, ไก่สดชำแหละ เนื้อสันใน ปรับขึ้น 5 บาท/ก.ก. เป็น 90-100 บาท/ก.ก, ปลาดุก พันธุ์บิ๊กอุย ปรับขึ้น 5 บาท/ก.ก. เป็น 75-85 บาท/ก.ก. เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้เกษตรกรผู้เลี้ยงเร่งระบายผลผลิตออกจำหน่าย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากพายุฝนส่งผลให้ช่วงนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ในขณะที่ความต้องการบริโภค ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผอ.สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนมีสภาพคล่องเหลืออยู่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้ในการพยุงราคาน้ำมันได้อีกประมาณเดือนกว่า หลังจากนั้นต้องหาสภาพคล่องเพิ่มเติมให้ได้ ซึ่งมี 2 ทางที่ดำเนินการได้ คือ 1.การกู้เงิน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนน้ำมันฯ กู้เงินได้ 3 หมื่นล้านบาท และ 2.การขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งแล้วแต่นโยบายว่ารัฐบาลจะนำเงินส่วนไหนมาให้

“ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสถานะติดลบอยู่ 7.6 หมื่นล้านบาท โดยตอนนี้เงินไหลเข้า-ออกของกองทุนในแต่ละวันติดลบอยู่ 4-5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสภาพคล่องที่มีอยู่ กับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างมาก จึงต้องเร่งหาสภาพคล่องมาเพิ่มเติม ในส่วนของเงินกู้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคาร ยอมรับว่ากองทุนน้ำมันไม่สามารถกู้เงินโดยตรงได้ เพราะไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคล แต่ว่าสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเป็น ผู้ดำเนินการแทน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกันกับธนาคาร โดยธนาคารก็ต้องพิจารณาถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย เพราะมีผลกระทบจากทั้งโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดมีเรื่องโรคฝีดาษลิงเข้ามาด้วย ล้วนแต่ส่งผลกระทบทำให้ราคาน้ำมันผันผวนมาก” นายวิศักดิ์กล่าว

นายวิศักดิ์กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าการกู้เงินจะไม่ทันภายในเดือนพ.ค.นี้ และสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ หมดไป ก็ยังไม่ส่งผล กระทบของกองทุน เพราะกองทุนน้ำมันยังมีช่องทาง คือ การขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ส่วนรัฐบาลจะเอาเงินส่วนไหนมาอุดหนุนก็เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ากองทุนน้ำมันฯ ยังดูแลราคาน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดการสะดุด

นอกจากนี้ ตามมติครม. ที่ให้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. และในเดือนพ.ค.-มิ.ย. รัฐบาลจะช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลครึ่งหนึ่งโดยกำหนดอัตราเพดานไว้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร ถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลยังอุดหนุนไม่ถึงครึ่งของราคาเพดาน ก็ถือว่าไม่ผิดมติ ครม. เพราะกำหนดไว้ชัดเจนว่ามีเวลาดำเนินการในส่วนนี้จนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. 2565 ที่จะปรับราคาน้ำมันดีเซลไปที่ 35 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมัน ณ ขณะนั้นด้วย หากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศก็อาจจะไม่ถึง 35 บาทต่อลิตร ส่วนตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นไป ตามมติ ครม. ระบุว่าจะไม่มีการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลแล้ว แต่จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายพิจารณาอีกครั้ง

เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต กลุ่มภาคีเครือข่ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 150 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานไรเดอร์ ได้รวมตัวกันเดินทางจากเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน โดยเรียกร้องให้รมว.พลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน หรืออธิบดี มารับหนังสือ ต่อมาปลัดกระทรวงพลังงานได้รับหนังสือผ่านช่องทางวิดีโอคอล โดยมีนายศิวเรศ ธรรมวิเศษ ผอ.กองตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน ลงมาพูดคุยไกล่เกลี่ยไม่ให้กลุ่มภาคีเครือข่ายปิดถนน โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง

มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลลดอัตราการเก็บกาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ลง 5 บาทต่อลิตรทันที เป็นระยะเวลา 6 เดือน 2.ขอให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ ไม่เกิน 38 บาทต่อลิตร ตลอดปี 2565 3.ขอให้รัฐบาลงดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ จนกว่าราคาน้ำมันในกลุ่มนี้จะต่ำกว่า 38 บาทต่อลิตร และ 4.ขอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ หากราคาน้ำมันยังคงสูง

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันเบนซินสูง เป็นผลจากราคาน้ำมันตลาดโลก และการเก็บภาษีน้ำมันยังคงจำเป็น อีกทั้งกองทุนอยู่ในสถานะติดลบรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลยังอยู่ระหว่างการหาแนวทางและเดินหน้าเรื่องกู้เงินอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะนำข้อเสนอเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตให้กับกลุ่มน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เข้าหารือกับกระทรวงการคลัง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องขอเวลาให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพราะมีความเกี่ยวข้องกับรายได้ของรัฐ แต่คงกำหนดระยะเวลาไม่ได้แน่ชัด หากผลการพิจารณาเป็นอย่างไรจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์ ปิดตลาดวานนี้ (26 พ.ค.) ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 144.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 150.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลจากเดือนก่อน สวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงอยู่ที่ 108.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

วันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า พีทีที สเตชั่น และบางจาก ได้ประกาศปรับราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้เบนซินราคาแนะนำอยู่ที่ 51.26 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 43.85 บาท, อี20 อยู่ที่ 42.74 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 43.58 บาท, อี85 อยู่ที่ 36.74 บาท มีผลวันที่ 28 พ.ค. เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป

ขณะที่ราคาดีเซล บี7, บี10 และบี20 คงอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ส่วนราคาดีเซลพรีเมียมอยู่ที่ 42.36 บาท/ลิตร

ขณะที่ นายสุระชัย วิชาชัย หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่สำนักงานลงพื้นที่ตรวจสอบราคาข้าวสารชนิดต่างๆ ในร้านค้าปลีกในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค

นายสุระชัยกล่าวว่า สถานการณ์การจำหน่ายข้าวสารหอมมะลิราคาเริ่มปรับสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากภาวะข้าวเปลือกของเกษตรกรกับโรงสีขาดตลาด ต้นทุนข้าวเปลือกตอนนี้ตันละ 16,000 บาท จากเดิมตันละ 13,000 บาท ขึ้นมาตันละ 3,000 บาท ทำให้การจำหน่ายข้าวสารมีราคาสูงขึ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมก.ก.ละ 2 บาท ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จากก.ก.ละ 34 บาท ปรับขึ้นเป็น 36 บาท

ข้าวแพง – เจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น สำรวจราคาข้าวสารตามร้านค้าปลีกในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ป้องกันการกักตุนโก่งราคาเอาเปรียบผู้บริโภค หลังราคาข้าวสารทยอยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 27 พ.ค.

ส่วนข้าวหอมมะลิในพื้นที่ขอนแก่นจากเดิมก.ก.ละ 31 บาท ปรับขึ้นเป็น 33 บาท ขณะที่ข้าวหอมมะลิกลางปีจากเดิม 32 บาท ปรับขึ้นเป็น 34 บาท ข้าวหอมมะลิเก่า จากเดิม 34 บาท ปรับขึ้นเป็น 36 บาท ส่วนใหญ่ชาวบ้านเข้าใจว่าทำไมต้องปรับราคาแพงขึ้น แและเป็นลูกค้าประจำเคยซื้อที่ไหนก็ซื้อที่เดิม แต่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อลดลง จากเดิมเคยซื้อ 1 กระสอบ ปรับมาเป็นซื้อทีละ 10 ก.ก. อยู่ที่กำลังซื้อของคนที่มาซื้อด้วย ส่วนข้าวสารในต่างประเทศก็ปรับราคาสูงขึ้น ส่งออกเยอะขึ้น ทำให้ข้าวสารในประเทศมีราคาสูงขึ้น

ด้านนางอำนวย มาซา เจ้าของร้านอำนวยค้าข้าว กล่าวว่า ราคาจำหน่ายปรับขึ้นกระสอบละ 30-50 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เพราะโรงสี แจ้งว่าข้าวเปลือกขาดตลาด แต่ก็ขาดเฉพาะข้าวหอมมะลิเท่านั้น ส่วนข้าวเหนียวยังมีอยู่ จึงไม่ได้ปรับขึ้นด้วย ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นก็มีส่วนทำให้ราคาข้าวขึ้นด้วย เพราะเป็นต้นทุนค่าขนส่งเพราะต้องใช้น้ำมัน ซึ่งราคาข้าวหอมมะลิปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว ลูกค้าที่มาซื้อก็มีบ่นบ้างเพราะของแพงทุกอย่าง และช่วงนี้ราคาข้าวสารก็ปรับขึ้นสูงอีกพอสมควรทำให้กระทบกับคนที่มาซื้อ ซึ่งมีการลดจำนวนการซื้อลง จากที่สังเกตคือปรับวิธีเป็นแบบทยอยซื้อทีละ 5-10 ก.ก.แทนการซื้อครั้งละมากๆ อย่างไรก็ดี ถ้าเริ่มฤดูกาลเก็บเกี่ยวใหม่ราคาข้าวสารน่าจะลดลงเพราะมีข้าวเปลือกในโกดังมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน