ผู้ส่งออกสินค้าอาหาร และรถยนต์ไทยกระทบหนักหลังกระทรวงพาณิชย์ปากีสถาน สั่งห้ามนำเข้าสินค้า 38 รายการ แก้ปัญหาขาดดุลประเทศจากการนำเข้าและราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น

นายเขมทัต อาชวธำรง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ในต่างประเทศ ณ กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2565 กระทรวงพาณิชย์ปากีสถานออกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้าจำนวน 38 รายการ เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเกิดจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น

รวมทั้งสกัดปัญหาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลง ในขณะที่ค่าเงินรูปีของปากีสถานร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินทุนสำรองที่ธนาคารกลางถืออยู่ลดลง เหลือเพียง 10 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จาก 16.3 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.พ. 2565

“ในระยะสั้น สินค้าส่งออกหมวดอาหารของไทยจำนวน 13 รายการ อาจได้รับผลกระทบ ส่วนระยะยาว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปปากีสถาน ที่มีมูลค่าสูงสุดหลายปีติดต่อกันจะได้รับผลกระทบ”

สำหรับสินค้า 38 รายการ ที่ปากีสถานประกาศห้ามส่งออกและนำเข้า อาทิ รถยนต์, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องใช้ในบ้าน, บุหรี่, เครื่องหนัง, ผลไม้และผลไม้แห้ง, ซอส, ปลาและปลาแช่แข็ง, ผลไม้แช่อิ่ม, ขนมหวาน, น้ำอัดลม, เนื้อแช่แข็ง น้ำผลไม้ และ รองเท้า เป็นต้น

นายเขมทัตกล่าวว่า ใน ปี 2564 ไทยและปากีสถานที่มูลค่าการค้าระหว่างกัน 1,817 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก 1,613 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 204 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เส้นใยประดิษฐ์ และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น

ในช่วงม.ค.-มี.ค. ปีนี้มีมูลค่าการค้า 516 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% โดยไทยส่งออกไปปากีสถาน มูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.09% และนําเข้าจากปากีสถาน 116 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 176.19% เป็นน้ำมันดิบ (63.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) และสินค้าสัตว์น้ำ แช่เย็นแช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสําเร็จรูป (36.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน