เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ฝ่ายค้านระบุถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็น รายบุคคลจะเน้นข้อมูลที่เห็นว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมาย และส่อไปในทางทุจริต มีหลักฐานเป็นหลัก 2-3 เรื่องใหญ่ ว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านชอบโหมโรงก่อน ศึกซักฟอกทุกครั้งว่ามีหลักฐาน มีไม้เด็ด แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายจริงมักจะมีแต่วาทกรรม เสียดสี สาดโคลน เนื้อหาต่างจากที่แกนนำม็อบบนท้องถนนพูดบนเวทีหรือไม่ ประชาชนก็ทราบดี เพียงแต่ถูกนำมาพูดในสภา โดยคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นส.ส. ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
หากฝ่ายค้านมีหลักฐานจริงตามที่กล่าวอ้างก็นำมาแสดงในสภาได้ รัฐบาลพร้อมรับฟังอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลก็รับฟังข้อเสนอแนะและนำไปตรวจสอบทุกครั้ง เพียงแต่ฝ่ายค้านไม่ยอมเปิดใจ ทำเหมือนอภิปรายเสร็จแล้วก็แล้วกันไป ไม่ได้สนใจคำชี้แจงของรัฐบาลเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลชี้แจงข้อบิดเบือนต่างๆ ของฝ่ายค้านแล้ว ประชาชนจะเข้าใจและเลิกสับสน
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่ารัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย เป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม 3 ป.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นั้น ขอให้ฝ่ายค้านไปคุยกันเองให้ตกผลึกก่อนดีกว่าว่าสามารถหาข้อมูลที่อ้างว่ามีการทุจริตได้จริงหรือไม่ ควรใช้เนื้อหาเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยสรุปว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คนแน่ ไม่ใช่เอาจำนวนรัฐมนตรีเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยไปหาข้อมูลเอาดาบหน้า สุดท้ายจะกลายเป็นการอภิปรายแบบน้ำท่วมทุ่งเหมือน ที่ผ่านมา
ฝ่ายค้านควรอภิปรายแบบเสนอแนะด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้เห็นว่ารัฐบาลตัดสินใจอะไรผิดพลาด เกิดการใช้งบประมาณไม่เหมาะสมตรงไหน อย่างไร และการบริหารที่อ้างว่ามีความผิดพลาดนั้น สร้างความเสียหายจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า
