ดูจะกลายเป็นประเด็นบานปลายไปเรียบร้อย สำหรับการตั้ง งบประมาณ 7,570,000 บาท ตรวจสอบจีที 200 ที่ใช้การไม่ได้ จำนวน 757 เครื่อง เพื่อยืนยันว่าใช้ การไม่ได้จริงๆ จนถูกเปิดโปงจากส.ส.พรรคก้าวไกล ในการอภิปราย งบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา

เพราะแม้จะมีการเพียรอธิบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงกลาโหม และสวทช. ที่ ดำเนินการตรวจสอบ

ยืนยันต้องดำเนินการเพราะเป็นสาระสำคัญของคดี หากผิดพลาดจะทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ในเรื่องการฟ้องร้องในคดีทางแพ่งได้

เหมือนกับว่าการใช้เงิน 7.5 ล้านบาท เป็นเรื่องคุ้มค่า หากทำให้สิ้นข้อสงสัย เพื่อจะได้รับการชดเชยในวงเงิน 683,441,561 บาท ตามที่อัยการเป็น ผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง

แต่ก็ยังเกิดข้อสงสัยว่า เหตุใดจีที 200 ที่ใช้แค่กาวติดประกบ ไม่มีเครื่องวงจรอยู่ภายใน ทำไมค่าแงะแกะดูและทำความเห็นยืนยันว่าเป็นของไร้ค่า ถึงแพงในระดับเครื่องละ 1 หมื่นบาท

และก็เหมือนกับที่นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์จุฬาฯ ที่ระบุว่าหากการใช้งบนี้ทำได้ ต่อไปในปีหน้าหากจัดงบทำลายอีกเครื่องละ 2 หมื่นบาท ก็ต้องยอมรับ และเสียแล้วเสียอีกกับจีที 200 อุปกรณ์ลวงโลกชิ้นนี้เหรอ

และขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่นี้ อัยการสูงสุดที่เป็นเจ้าของสำนวนสั่งฟ้อง ก็ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ยอมรับว่าส่งเรื่องให้กองทัพบกตรวจสอบจีที 200 ทั้งหมดจริง เพราะถือเป็นข้อแพ้ชนะของคดี แต่จะไปตรวจอย่างไร ราคาเท่าไหร่ อัยการ ไม่ได้ก้าวล่วง

โดยส่งเรื่องไปตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 60 !??








Advertisement

จากนั้นในวันที่ 1 ก.ย. 64 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า จีที 200 ทั้ง 757 เครื่องเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ สั่งให้เอกชนชำระเงินให้กองทัพบก 683,441,561 บาท ซึ่งอัยการแจ้งกองทัพบกตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.64

จึงไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบ จีที 200 อีก!!!

กลายเป็นคำถามว่า เหตุใดกลาโหมถึงตั้งงบตรวจสอบหลังจากที่ได้รับเรื่องไปแล้วถึง 5 ปี

และทำไมเมื่ออัยการแจ้งผลของคดีในปี 2564 ถึงไม่รับทราบ ยังยืนยันต้องตั้งงบตรงนี้อีก!??

เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงอย่างเร่งด่วน เพื่อศักดิ์ศรีความเชื่อมั่นของกองทัพเอง

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน