เงินบาทอ่อนค่าสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ธปท. ลั่นพร้อมดูแลหากผันผวนผิดปกติ แจงตลาดจับตาเฟดคืนนี้ ดันดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ารอบ 20 ปี ด้านหอการค้าฯ-ส.อ.ท. ห่วงกระทบต้นทุนนำเข้าน้ำมัน-วัตถุดิบ

น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวผันผวนและอ่อนค่าแตะ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ว่าเป็นผลจากการคาดการณ์ของตลาดว่าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม และความกังวลต่อโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี

ขณะที่สกุลเงินภูมิภาครวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีเงินบาทปรับอ่อนค่าลง 4.5% ส่วนเงินสกุลอื่นในภูมิภาคอ่อนค่าระหว่าง 3-7% ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อผันผวนมากผิดปกติ

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ กล่าวว่า มองค่าเงินบาทที่อ่อนทะลุ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและน้ำมันเชื้อเพลิง อาจเร่งให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีก ขณะที่ผู้ประกอบการอาจมีปัญหาขาดสภาพคล่องจากต้นทุนนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยซึมมากขึ้น

“ต้องจับตาการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง ขณะที่ ธปท. ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้นนโยบาย อาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงอีก ไหลไปอยู่ที่ 35.50-36.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น มาอยู่ในระดับที่สมดุลกับเศรษฐกิจไทย”

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าสุดในภูมิภาค ทางผู้ส่งออกก็อยากได้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32-32.50 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่ขณะนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 34-35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้ส่งออกสามารถแข่งขันได้มากขึ้น แต่ผู้นำเข้าได้รับผลกระทบโดยเฉพาะผู้นำเข้าสินค้าวัตถุดิบและน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักของภาคการผลิต ขนส่ง ค่าไฟ และส่งผ่านไปยังค่าครองชีพของประชาชนในที่สุด ดังนั้นค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 32-33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ทำให้ผู้นำเข้าต้องแบกภาระหนักมาก เกินไป ทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้าก็อยู่ได้

ประเมินในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น คาดว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 6-7 ล้านคน ทำให้มีความต้องการเงินบาทมากขึ้น ช่วยให้ค่าเงินบาทสมดุลและมีเสถียรภาพมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน