วันที่ 21 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า แรงงานชาวเบลเยียมราว 80,000 คนรวมตัวประท้วงทั่วกรุงบรัสเซลส์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการรับมือค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการนัดหยุดงานประท้วงหรือสไตรก์ 1 วันที่สนามบินระหว่างประเทศและตามจุดโครงข่ายคมนาคมท้องถิ่นทั่วประเทศ ส่งให้การเดินทางสาธารณะเกือบเป็นอัมพาต และคาดว่าทั้งนักบินและลูกเรือของสายการบินนัดหยุดงานประท้วงอีกในสัปดาห์นี้
นิ่งไม่ไหว – พนักงานรถไฟในอังกฤษนัดหยุดงานเพื่อออกมาประท้วง เนื่องจากไม่พอใจค่าจ้างและสภาพการทำงาน นับเป็นการสไตรก์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ขณะที่แรงงานเบลเยียมเกือบ 80,000 คนประท้วงค่าครองชีพแพงที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อ 21 มิ.ย. (รอยเตอร์)
รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงแห่ถือธงและป้ายข้อความว่า “เคารพกันมากกว่านี้ ค่าจ้างสูงขึ้น” และ “ยุติภาษีสรรพสามิต” สำหรับเงินเฟ้อในเดือนมิ.ย. ของเบลเยียมปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 9 สะท้อนถึงวิกฤตเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก จากปัจจัยหลักการรุกรานยูเครนของรัสเซียส่งผล กระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ราคาพลังงาน และราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ด้านนายอเล็กซานเดอร์ เดอ โกร นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ระบุว่า แรงงานชาวเบลเยียมได้รับการคุ้มครองที่ดีกว่าแรงงานในชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) อีกหลายประเทศ เพราะค่าจ้างปรับเปลี่ยนตามภาวะเงินเฟ้อ และว่ารัฐบาลขยายมาตรการหยุดเก็บภาษีแก๊ส ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงถึงสิ้นปี 2565
วันเดียวกัน มีกระแสวิตกสถานการณ์ในสหราชอาณาจักรหลังจากลูกจ้างรถไฟเริ่มสไตรก์วันแรกจากทั้งหมด 3 วัน นับเป็นการสไตรก์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยพนักงานกว่า 40,000 คนออกมาประท้วงเพราะไม่พอใจค่าจ้างและสภาพการทำงาน ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้ลูกจ้างๆ ในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ออกมาเรียกร้องตาม ทั้งแพทย์ ครู พนักงานเก็บขยะ หรือแม้แต่บาริสตาร้านกาแฟ เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงสูงขึ้นมากและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทะยานสู่ร้อยละ 10 แล้ว
