เพราะความจริงที่ว่าการกระทำรุนแรงกับเด็ก ส่วนใหญ่มักมาจากคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว พลันที่ตำรวจสามโคกรับแจ้งเหตุ ด.ญ.นรภัทร ภากล้า หรือ น้องกอหญ้า เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ถูกทำร้ายเสียชีวิต ผู้ต้องสงสัยจึงหนีไม่พ้นคนในครอบครัว

ย้อนไปเมื่อเวลา 21.25 น. วันที่ 22 มิ.ย. ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเหตุเด็กเสียชีวิตภายในห้องแถวให้เช่า ซอยวัดสะแก ม.1 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมตรวจสอบ

รับศพน้องกอหญ้า

ภายในห้องเลขที่ 2 พบศพ ด.ญ.นรภัทร ภากล้า หรือ น้องกอหญ้า อายุ 6 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน โดยมี นางละออ ญาณสวรรค์ อายุ 47 ปี ผู้เป็นยาย นายไพบูลย์ ญาณสวรรค์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นตาและ ด.ญ.ดาหลา หลงเดียว หรือ น้องเดียร์ อายุ 10 ขวบ ลูกสาวนางละออ อยู่รอให้การ

เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพพบว่ามีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ขมับขวายุบ ขอบตาซ้ายเขียว ชายโครงซ้ายเขียวช้ำ หน้าท้องบวม อวัยวะเพศเขียวช้ำ นิ้วมือซ้ายบวมช้ำเลือดช้ำหนอง แขนซ้ายมีรอยคล้ายถูกของมีคม ตามร่างกายมีบาดแผลตกสะเก็ด จึงมอบศพให้ มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิม พระเกียรติ ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถามนางละออให้การว่า เมื่อช่วงประมาณทุ่มเศษ หลานสาวยังขอกินน้ำอยู่เลย แต่แล้วจู่ๆ ก็นอนเสียชีวิตไปเฉยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนบาดแผลที่พบเกิดมาหลายวันแล้วเนื่องจากหลานเล่นซน วิ่งไปกระแทกกับกรงเหล็กที่ขังสุนัขอยู่หลังห้อง แต่ตนไม่ได้พาไปหาหมอเพราะไม่มีเงิน

สอบนางละออ ญาณสวรรค์

คำให้การที่ไม่สอดคล้องกับกายภาพของบาดแผล ประกอบกับผู้ที่เช่าห้องอยู่ข้างๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ยินเสียงหนูน้อยร้องเพราะถูกทำร้ายทุบตีเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยเห็นเด็กที่ตายได้ออกมาจากห้องเลย ตำรวจจึงเชิญตัวนางละออมาสอบสวนต่อที่โรงพักซึ่งเจ้าตัวยังยืนยันตามคำให้การเดิม

กระทั่งวันที่ 24 มิ.ย. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกหนังสือรับรองการเสียชีวิตของน้องกอหญ้า ว่าเกิดจากการถูกทำร้ายทารุณกรรม โดยสาเหตุการตายมาจากสมองได้รับการกระทบกระเทือน

หลังได้ทราบผลการชันสูตร พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี รักษาการผกก.สภ.สามโคก พร้อมร.ต.อ.วรภัคร ศุภสวัสดิ์ รองสารวัตร สอบสวน สภ.สามโคก รวบรวมพยาน หลักฐานยื่นขอศาลจังหวัดปทุมธานี ออกหมายจับนางละออผู้เป็นยาย ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย”

พ่อ-แม่รอให้ปากคำ

พนักงานสอบสวนนำตัวนางละออมาสอบสวนอีกครั้งกระทั่ง เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นคนใช้สากกะเบือทุบตีหลานแล้วไม่ได้พาไปหาหมอจนเด็กเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นไม้ตีพริก (สากกะเบือ-มีดทำครัว) เพื่อส่งตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ ศพฐ.1 เพื่อใช้ประกอบคดี

พ.ต.อ.ประภาสเผยว่า หลังพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลปทุมธานีออกหมายจับ ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำปทุมธานีทันที โดยผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ และจากการสอบสวนนางละออรับสารภาพได้ทำร้ายจริง เนื่องจากมีความเครียดที่จะต้องเลี้ยงหลาน บอกว่าเด็กซนทำให้มีอารมณ์โมโห จึงก่อเหตุขึ้น โดยใช้ไม้ตีพริก มีดทำครัว ทำร้ายร่างกาย ส่วนบาดแผลบริเวณที่ทำให้เด็กเสียชีวิตต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอีกครั้ง

คุมยายส่งฝากขัง

รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เผยต่อว่า สอบถามยายบอกว่าน้องกอหญ้าเพิ่งมาอยู่กับยายได้ประมาณ 3 เดือน เพราะพ่อแม่เลิกกัน เด็กก็มีซนบ้าง ปัสสาวะไม่เป็นที่บ้าง ยายจะต้องตามเช็ด จึงถูกผู้เป็นยายทำร้ายเป็นระยะและในวันเกิดเหตุนั้นเวลาเย็นเด็กซนดื้อ ยายได้ใช้ไม้ตีพริกตีตามร่างกาย หลังถูกตีเด็กก็ยังมีอาการปกติ ก่อนจะนอนหลับไปจนประมาณสองทุ่มเด็กมีอาการหายใจไม่ออก ยายจึงโทร.ไปตามลูกสาวอีกคนมาดู แต่ก็ไม่ทันแล้วน้องเสียชีวิตแล้ว ส่วนบาดแผลที่อวัยวะเพศนั้นเกิดจากอะไรยังไม่สามารถบอกได้ต้องรอผลตรวจ ส่วนสาเหตุนั้นมาจากความเครียดเรื่องเงินและเรื่องเด็กดื้อ ตีเพื่อเป็นการสั่งสอน แต่เด็กถูกทำร้ายมาเป็นระยะกระทั่งลงมือหนักจนเสียชีวิต

อีกเหตุสลดที่เด็กตกเป็นเหยื่อของการกระทำรุนแรงในครอบครัว

วสันต์ ทิพย์ประโภชน์เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน