จากวาระครบรอบ 90 ปี 24 มิถุนายน 2475 นอกจากการชุมนุมเรียกร้องสืบสานต่ออุดมการณ์คณะราษฎร และประชาธิปไตย ดังที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ยังมีประเด็นที่ถูกนำมาพูดถึง และสามารถผลักดัน นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต จากเวทีเสวนา 90 ปี แห่งการอภิวัฒน์สยาม อุดมการณ์เพื่อชาติและราษฎรไทย จัดโดยสถาบันปรีดี พนมยงค์
โดย รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้เสวนา ระบุถึงอุดมการณ์ของคณะราษฎรในการสถาปนานิติรัฐ เพื่อทำให้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชนได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน
โดยเฉพาะการที่มีผู้มีอำนาจใช้ความรุนแรงต่อประชาชน แล้วยังลอยนวล พ้นผิดครั้งแล้วครั้งเล่า
รศ.ดร.พวงทอง นำเสนอเรื่องการพึ่งพิงกระบวนการ ยุติธรรมจากภายนอกประเทศ ด้วยการผลักดันกรณีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 เข้าสู่ ศาลอาญาระหว่างประเทศ
โดยให้ข้อสังเกตหลังสิ้นสุดเหตุการณ์ มีผู้เสีย ชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หรือรู้จักกันต่อมา คดี 99 ศพ ซึ่งในช่วงแรก กระบวนการยุติธรรม ยังมีความคืบหน้า
แต่หลังรัฐประหาร 2557 โอนคดีไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สุดท้ายมีมติไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหา คดีจึงไม่เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริงชั้นศาล
ดังนั้น จึงเสนอพรรคการเมือง นักการเมือง แกนนำเสื้อแดง ประชาชนทั่วไป รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคำนึง ต่อผู้เสียชีวิต ร่วมผลักดันเรื่องนี้
นับเป็นข้อเสนอแหลมคมที่จะทำให้สังคมไทยมีหลักนิติรัฐ สิทธิ เสรีภาพได้รับการคุ้มครอง หากผู้มีอำนาจใช้ความรุนแรงต่อประชาชนต้องไม่พ้นผิดลอยนวล
ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี การเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. ใกล้เข้ามา จะทำอย่างไรให้คดีสลายม็อบปี 53 เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคการเมืองในการหาเสียง เลือกตั้ง เพื่อนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริง ชั้นศาล
โดยเฉพาะผู้เสียชีวิต 18 ราย ที่ศาลไต่สวน มีคำสั่งแล้วเสียชีวิตจากกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยลงสัตยาบันในธรรมนูญ ของศาลอาญาระหว่างประเทศ
เหล่านี้คือความคาดหวังต่อพรรค การเมืองฝ่ายประชาธิปไตย บรรจุคดี 99 ศพ เป็นหนึ่งในนโยบายพรรค เพื่อผลักดันการชำระสะสาง
