วันศุกร์ที่ 1 ก.ค.2565 น้อมรำลึกครบรอบ 130 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อย้อย ปุญญมี” หรือ พระอธิการย้อย อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี พระเกจิชื่อดังที่มีวัตรปฏิบัติดีมีชื่อเสียงโด่งดังในเขตจังหวัดสระบุรี

มีนามเดิม ย้อย เกิดวันที่ 1 ก.ค.2435 ปีมะโรง ที่บ้านโรงเหล้า (บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายนิ่มและนางแป๋

ช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถม ปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อปี พ.ศ.2452 ขณะอายุ 16 ปีเศษ โดยมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์

กระทั่งอายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2456 มีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระใบฎีกาโป๋ วัดวังแดงเหนือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกานาค วัดสมุหประดิษฐาราม อ.เสาไห้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ศึกษาวิทยาคมจากตำราต่างๆ โดยมีหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ คอยเป็นพระอาจารย์อบรมสั่งสอน

ในปี พ.ศ.2461 ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน

หลวงพ่อย้อย เป็นพระภิกษุผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ เจริญด้วยเมตตายิ่ง ผู้ที่ได้เข้ามา กราบจะเห็นว่า เวลาฉันภัตตาหารเช้าหรือเพล แทบจะกล่าวได้ว่า ทุกเวลาที่ฉัน จะมีสุนัขและแมวล้อมรอบตัวและสำรับกับ ข้าวของจำนวนมาก ฉันอาหารไป ก็ให้อาหารสุนัข-แมวไปด้วยทุกครั้ง








Advertisement

แม้กระทั่งยุงที่กัดท่านก็ไม่เคยไล่หรือตี มีลูกศิษย์จะตีให้ก็ไม่ยอม บอกแต่เพียงว่าเขาอิ่มแล้วเขาก็ไป

คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ ไม่เคยขัดศรัทธาของลูกศิษย์ที่ไปหา ต้องการให้ทำหรือช่วยเหลืออย่างไร ทำให้ทุกอย่าง มีวิทยาคม แต่ใช้ในทางที่ถูกช่วยเหลือ, ป้องกันภัย ไม่ว่าจะลงกระหม่อม ทำน้ำมนต์อาบให้ หรือปลุกเสกเครื่องรางของขลังไว้ป้องกันตัวจากอันตรายต่างๆ

อีกประการหนึ่ง มีประสาทหูเสีย (หูหนวก) จึงมีสมาธิดีกว่าปกติ เพราะไม่สามารถฟังเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียง

วัดอัมพวัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอ แต่เยื้องไปตามลำน้ำเล็กน้อย เดิมชื่อว่า “วัดม่วงล้อม” เพราะบริเวณวัดเต็มไปด้วยต้นมะม่วงขนาดใหญ่ยืนต้นอยู่เป็นจำนวนมาก

โดยสมัยนั้นยังปรากฏ วิหารเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ถือปูน ขนาดหน้าตักกว้าง 110 เซนติเมตร สูง 145 เซนติเมตร ซึ่งมีหลักฐานปรากฏว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุเก่าแก่ประมาณ 400 ปี ในละแวกนี้เดิมมีบ้านเรือนผู้คนมาขอปลูกอาศัยเป็นจำนวนมาก

ต่อมา พระครูติ๊บ ซึ่งเป็นพระครูเมืองวัดเขาแก้ว เข้ามาปฏิสังขรณ์วัดม่วงล้อมใหญ่ สร้างกุฏิสงฆ์ และอุโบสถ แล้วให้นามวัดว่า “วัดอัมพวัน” นับตั้งแต่นั้นมาจวบจนปัจจุบัน โดยมีหลวงตาจั่น เป็นเจ้าอาวาสและเมื่อหลวงตาจั่นมรณภาพไปแล้ว หลวงพ่อย้อย ปุญญมี จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแทน

เป็นพระที่มีจิตที่ไม่มีความโกรธ มีบุคลิกที่มีความเมตตายิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ เมตตาต่อสรรพสัตว์น้อยใหญ่ มีความอิ่มเอิบสดชื่นเสมอๆ มีบารมีผ่องใสอยู่ในตัว ประกอบกับการที่มีสมาธิแก่กล้า เข้มขลัง เมื่อได้ปลุกเสกโดยการปรุงใจตามวิธีการปลุกเสกของตำราโบราณ ดังนั้นวัตถุมงคลของท่านจึงมีพุทธคุณที่เป็นเมตตามหานิยมด้วย

ช่วงบั้นปลายชีวิต เกิดล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ จึงถูกส่งไปรักษาตัวที่ ร.พ.ศิริราช แต่ด้วยความชราภาพในที่สุดมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2525 สิริอายุ 90 ปี พรรษา 69

ภายหลังมรณภาพ สังขารไม่เน่าเปื่อย วัดอัมพวัน นำสังขารบรรจุไว้ในโลงแก้ว ให้ประชาชนได้สักการะขอพร ทุกปีวัดจะนำสังขารทำความสะอาด ปิดทอง และเปลี่ยนสบงจีวรใหม่ มีประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน