‘แดน&แพทตี้’จูงมือพิสูจน์รัก10กว่าปี

อาทิตย์ใส

เป็นคู่รักที่คบกันมานานกว่า 10 ปี สำหรับหนุ่มมากความสามารถ ‘แดน’ วรเวช ดานุวงศ์ กับดาราสาวขวัญใจหนุ่มๆ ‘แพทตี้’ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ล่าสุดทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญ- คอมเมดี้เรื่อง “ทวงคืน” ที่หนุ่มแดนควบทั้งกำกับฯ และลงแสดงเอง

วันนี้สบโอกาสเหมาะ ทั้งคู่ได้มาเปิดใจถึงความรักที่เดินทางมา 10 กว่าปี รวมถึงงานแสดงล่าสุดที่ร่วมงานกัน

ก่อนอื่นอัพเดตก่อนว่า เพจ “ทวงคืนแพตตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช” ยังเคลื่อนไหวอยู่ไหม?

แดน – “ยังอยู่นะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าอัพเดตถึงไหน ผมคิดว่าเขาอาจจะเริ่มท้อถอยแล้ว เพราะไม่สามารถทวงคืนผมได้ แสดงความเสียใจด้วย สู้ๆ หน่อยนะครับ (หัวเราะ)”

แพทตี้ – “จริงๆ ส่วนตัวก็ได้เข้าไปดูบ้างเพราะเขาจะแซวตลอด อย่างหนังเรื่องนี้ที่จะออกเขาก็แบบเอาไปลงว่าจะทวงคืนอะไรแบบนี้ค่ะ”

โดนทวงคืนบ่อยๆ เลยเก็บกดมาทำหนังเรื่องล่าสุดชื่อว่า “ทวงคืน” หรือเปล่า?
แดน – “มีส่วนมากเหมือนกัน ตั้งแต่ คบน้องแพทมา 10 กว่าปี คำว่าทวงคืนมัน วนเวียนอยู่ในเรื่องราวชีวิตผมตลอด จนมันตกผลึก บวกกับได้อ่านหนังสือแล้ว เจอว่าคำนี้มันมีความหมายที่ดีซ่อนอยู่ เป็น ความหมายของเรื่องเวลา คนเรามีของมีค่าอยู่แล้วแต่มักจะมารู้สึกเสียดายมากๆ ในวันที่อยู่ๆ มีคนมาทวงของสิ่งนั้นคืนไป แล้วเราเพิ่งมาดูแลรักษา ธีมของหนังพูดถึงเรื่องนี้แล้วมันน่าสนใจดี”

นั่งแท่นผู้กำกับฯ และนักแสดงด้วย?
แดน – “ในทุกๆ ครั้งที่ผมคิดที่จะทำหนังหรืออะไรก็ตาม ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเล่นเองอยู่แล้ว แต่หนังบางเรื่องที่ผมเขียนบทเอง พอเขียนมาแล้วทุกคนอ่านก็จะบอกว่ามันเหมือนผมต้องเล่นเองถึงจะเข้าใจไดอะล็อกและแอ๊กติ้งเหล่านี้มากที่สุด อย่างทางเอ็ม พิคเจอร์อ่านบทแล้วก็ถามว่าใครเล่น ซึ่งผมก็มีรายชื่อหลายๆ คน เขาก็บอกว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดเรามากๆ ก็เลยเล่นเอง ทีนี้พอตั้งต้นว่าเราต้องเล่นเอง คนแวดล้อมก็ต้องเป็นแก๊งเราถึงจะเข้าใจจังหวะเรา เพราะเขาจะรู้ทางว่ามาทางนี้ต้องรับยังไง สุดท้ายถึงได้แพทตี้กับ พี่บีม(กวี ตันจรารักษ์) มาเล่นด้วยกัน เพราะเขาสองคนจะเข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรเลย”

จีบแพทตี้เองเลยหรือเปล่า?
แดน – “คนนี้สะกิดนิดเดียวก็มาแล้วครับ (หัวเราะ)”

แพทตี้ – “ว่างอยู่ๆ จริงๆ แพท เคยทำงานกับพี่แดนมาอยู่แล้ว พอเขาชวนเราก็แฮปปี้ ไม่ติดอะไร พอมาเล่นกับคนที่กันเองก็รู้สึกคงง่ายดี ไม่ต้องจูนอะไรใหม่ แล้วก็เป็นการกลับมารับงานหนังในรอบ 10 ปีของแพท และกลับมาร่วมงานกับพี่แดนด้วย นานมากๆ ที่ไม่ได้ทำงานร่วมกันที่เป็นภาพยนตร์ ดีค่ะ เพราะรู้สึกอยากเห็นตัวเองกลับมาในโรงภาพยนตร์เหมือนกัน”

ถ้าให้ทวงคืนอะไรได้หนึ่งอย่าง อยากทวงคืนอะไร?
แดน – “สำหรับผมคงเป็นเรื่องเวลา ทวงคืนเวลาช่วงที่ขาดหายไปจากกันและกัน เพราะที่ผ่านมาผมทำงานหนักมาก เลยมีเวลาให้เขาน้อยเกินไปกับการเป็นแฟน เลยคิดว่าจุดนี้น่าจะทวงเวลาคืนมาให้เขาเยอะขึ้น”

แพทตี้ – “จริงๆ ก็คล้ายกันคือเวลาค่ะ”

ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
แพทตี้ – “แฮปปี้ดีค่ะ แทบไม่มีปัญหาอะไรเลย”

เอาจริงๆ คู่เราโดนสบประมาทมาเยอะเหมือนกันในช่วงที่เปิดตัวแรกๆ ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง?
แดน – “สำหรับผมรู้สึกอย่างเดียวว่าเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดู แล้วถ้าเราไม่สามารถดูแลน้องเขาได้จริงๆ ก็แสดงว่าเราไม่เหมาะสมไม่คู่ควรกับน้องเขาตอนนั้นเลยไม่คิดอะไรอย่างอื่นนอกจากจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”

จนถึงวันนี้ 10 กว่าปีแล้ว จากวันแรกที่เดินกันมา คิดไหมว่าจะมาไกลกันได้ขนาดนี้?
แพทตี้ – “หนูไม่คิดแต่แรกอยู่แล้ว ต้องถือว่าพี่แดนเป็นแฟนคนแรกด้วยซ้ำ ซึ่งเราก็ไม่คาดหวังอะไรเยอะ เพราะตอนนั้นเหมือนเพิ่งเริ่มชีวิตวัยรุ่นที่มีหนุ่มมาจีบ เราก็แค่ทำให้ดีที่สุด ไม่คาดหวังเยอะว่าคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า แต่ถ้าคุยกันไปแล้วไม่มีปัญหาอะไร เราก็ค่อยๆ ดูกันไปเรื่อยๆ”

แดน – “สำหรับผมคิดนะ อยากทำให้ดีที่สุดและนานที่สุด แต่เรื่องความรักไม่มีใครบอกเรื่องระยะเวลาได้ แล้วมันก็ไม่ได้มีใครเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่อยู่ที่สุดท้ายพอคบหรือคุยกันไปของแต่ ละคู่ คู่นั้นเหมาะสมหรือเปล่าในเรื่องนิสัย ไลฟ์สไตล์ หรือแนวความคิดความเชื่อต่างๆ ในการใช้ชีวิต ถือว่าเราโชคดีมากๆ ที่พอยิ่งคุยกันไปยิ่งรู้สึกว่ามีหลายอย่างเชื่อมโยงกัน นิสัยคล้ายกัน สิ่งที่เราชอบคล้ายกัน หรือ ณ วันนี้ที่เราพูดว่าเราไม่ค่อยมีปัญหากันแล้ว มันคือความเชื่อเราใกล้กันมาก ซึ่งมันสำคัญมากกับคู่รักคู่ชีวิต เพราะถ้าความเชื่อไม่ตรงกัน ต่อให้จูนแค่ไหนก็ทะเลาะกัน”

ระหว่างทางเห็นว่าเกือบหวิดเลิกเหมือนกัน เล่าให้ฟังหน่อย?
แดน – “เป็นเรื่องของเวลาเป็นหลักเลย บางคนอาจจะนึกไม่ออกที่ผมบอกว่าไม่ค่อยมีเวลา มันจะไม่มีเวลาขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เราเป็นคนทำอะไรทำสุดจริงๆ ทุ่มเทกับทุกอย่างที่ตั้งเป้าปักธงไว้ งานที่ปักธงในตอนนั้นคืองานเบื้องหลัง งานกำกับฯ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์หรือซีรีส์ แต่มันกลับเป็นงานที่เราใช้เวลามหาศาล เตรียมงาน ออกกอง ดูโลเกชั่น ประชุมทีมงาน มันไม่มีเวลาเลย แล้วผมดันเป็นหัวหน้าที่เวลาประชุมจะไม่ชอบให้ใครรับโทรศัพท์หรือพิมพ์คุยอะไรระหว่างประชุม พอเราเป็นคนต้องการแบบนั้น ตัวเราเองต้องทำเป็นตัวอย่างว่าเราก็ไม่แตะโทรศัพท์เหมือนกัน ซึ่งเขาก็ไม่สามารถติดต่อได้ เคยมีบางเดือนเจอกันแค่ครั้งเดียว หรือบางเดือนไม่เจอกันเลยก็มี”

แพทตี้ – “ช่วงนั้นเป็นอยู่นานเป็นปีเลยค่ะ เขาทำอะไรหลายอย่าง แล้วเขาก็โฟกัสจริงๆ กับทุกงาน มันเลยกลายเป็นว่าให้เวลากับงานไปหมดเลย”

แดน – “ช่วงพีกที่สุดคือช่วงทำซีรีส์ ปีหนึ่งอาจจะไม่ได้ถ่ายพร้อมกันแต่รับซีรีส์ประมาณ 4 เรื่อง ในระหว่างที่กำกับฯ พอเลิกกอง 4 ทุ่มก็ไปเล่นคอนเสิร์ตต่อ พอเช้าก็มากอง นั่นคือช่วงที่พีกที่สุดแล้วที่รู้สึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย ช่วงที่ผ่านมาก็เลยตั้งสติใหม่ เรียบเรียงความเป็นระเบียบให้ชีวิตใหม่ ให้ความสำคัญกับจุดที่ควรให้ความสำคัญมากขึ้น”

มองในมุมผู้หญิงที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่รักจริงๆ อาจจะพังไปแล้ว?
แพทตี้ – “ใช่ค่ะ เมื่อก่อนเขาก็พูดตลอดว่าต้องเข้าใจพี่นะ เราทำงานตรงนี้รู้แหละว่ายุ่งคือยุ่งจริงๆ แต่มันก็เหมือนเริ่มเลยขีดจำกัดของเราแล้วเหมือนกัน ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ไหว สุดท้ายเราก็พูดกับเขาตรงๆ ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เรารู้สึกอะไร แล้ว ณ วันนั้นเหมือนเขามาเห็นในมุมเราด้วยว่าเรารู้สึกแบบไหน ก็เลยเข้าหากันคนละครึ่งทาง”

แดน – “แต่ตอนนั้นเราก็มีเหตุผลของ เราไง การที่เราบอกว่าให้เข้าใจเรานะ เพราะเรากำลังทำทุกอย่างนี้เพื่ออนาคตเราไง พยายามสร้างเนื้อสร้างตัวทำทุกอย่างให้มั่นคงเร็วที่สุด เอาจริงๆ ผมไม่เคยมีโมเมนต์ที่ลืมคิดถึงแฟนหรือลืมคิดถึงครอบครัว แต่เพราะคิดนั่นแหละ เราถึงต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จเร็วที่สุดเพื่อจะได้หยุดทำเร็วที่สุด แล้วก็เอาเวลาทั้งหมดมาอยู่กับแฟนกับครอบครัว ปรากฏพอเรามารู้ว่าอนาคตหรือวันพรุ่งนี้มันจะมีหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ถ้าคาดหวังว่าเดี๋ยวอีก 1-2 ปีเราหยุดงานแล้วค่อยไปเที่ยวกัน แล้วถ้ามันมาไม่ถึงล่ะ ก็เลยพบว่าจริงๆ แล้วเราควรให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากที่สุด ยังไปไม่ถึงไม่เป็นไร แต่เราตั้งเป้าไว้เพื่อให้มีทิศทางในการเดินไปเท่านั้นเพื่อไม่หลงทาง แต่ระหว่างทางมันต้องแฮปปี้ แล้วถ้ามันไม่ไปถึงตรงโน้นก็ไม่เป็นไร เพราะวันนี้เราแฮปปี้มีความสุขแล้วเท่านั้นเอง คือเราก็เปลี่ยนวิธีคิด”

“แต่ต้องบอกก่อนว่าเหตุการณ์นี้ที่เล่าให้ฟังมันไม่ใช่เกิดขึ้นช่วงที่มีข่าวว่าเราเลิกกันนะครับ เพราะช่วงที่มีข่าวลือเรายังนั่งดูทีวีอยู่ ด้วยกัน ช่วงที่มีข่าวคือไม่ได้มีปัญหาใดๆ เลย แต่ช่วงที่จะเลิกจริงๆ คือไม่มีข่าว”

บางคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าคบกันมานานขนาดนี้ ทำไมยังไม่แต่งงาน?
แพทตี้ – “งานเยอะ งานยังเยอะ (หัวเราะ)”

แดน – “(ยิ้มชวนคิด) รอต่อไป (หัวเราะ)”

ไม่อ้อมค้อมละ ใน 1-2 ปีนี้ จะแต่งงานไหม เพราะเห็นแดนบอกว่าจะรีบตามพี่บีม ให้ทัน?
แพทตี้ – “รอต่อไป (หัวเราะ)”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน