เฮกันทั้งประเทศเมื่อลูกยางสาวไทย ผ่าน เข้าสู่รอบ 8 ทีม วอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2022 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ 12 นัด เก็บไปถึง 15 คะแนน ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือเกาหลีใต้, แคนาดา, จีน, เซอร์เบีย และบัลแกเรีย ที่ล้วนเป็นทีมระดับโลกทั้งสิ้น
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ที่แก๊ง 7 เซียน แกนหลักที่สร้างความสำเร็จมานักต่อนัก ประกาศอำลาทีมชาติไป หลายเสียงหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันขรม ว่าอาจต้องใช้เวลากันอีกนานกว่าที่นักกีฬารุ่นใหม่จะก้าวขึ้นมาทดแทนได้อย่างสมบูรณ์
“อย่าว่าแต่ก้าวข้ามเลย แค่กลับมาเล่นให้ได้มาตรฐานเดิมก็ดีถมไปแล้ว” แฟนวอลเลย์หลายคนคิดอย่างนั้น
แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ ล่วงเลยไปเพียง 7 เดือน ตบสาวรุ่นใหม่ต่างลบคำสบประมาท เริ่มตั้งแต่การป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่เวียดนามได้สำเร็จ ก่อนจะพังกำแพงที่รุ่นพี่ยังก้าวข้ามไม่ได้ ด้วยการทะลุเข้าสู่ 8 ทีม เนชันส์ ลีก
ไม่มีคำว่าดวงหรือฟลุกทั้งนั้น เพราะหากจำกันได้ ในช่วงวีก2 ตบสาวไทยต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 เล่นงาน เหลือผู้เล่นตัวหลักจริงๆ ให้ใช้งานไม่ถึง 6 คน (ที่เหลือคือผู้เล่นเรียกเสริมไป) ไม่อยากจะคิดว่าหากตอนนั้นอยู่กันแบบฟูลทีม จะขยับอันดับไปได้ถึงไหน
กำลังหลักสำคัญเลยต้องยกให้พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และ ชัชชุอร โมกศรี 2 ลูกยางสาวที่โกยแต้มให้ไทยเป็นกอบเป็นกำ โดยพิมพิชยาทำไป 218 คะแนน เป็นอันดับ 4 ของการแข่งขัน ส่วนชัชชุอร โมกศรี ที่ทำไป 202 ติดอยู่อันดับ 6 เท่ากับว่าท็อป 6 ของโลกนั้นมีนักกีฬาไทยอยู่ถึง 2 คน
นอกจากนี้ พิมพิชยายังเก็บคะแนนได้จากการเสิร์ฟถึง 11 แต้ม เป็นอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ชัชชุอร ก็ทำคะแนนได้จากการบล็อกถึง 29 คะแนนเป็นอันดับ 8 ของโลก และรับบอลสำเร็จ 108 ครั้งเป็นอันดับ 6 ของโลก เรียกได้ว่าได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น
อีกคนที่ถูกชื่นชมจากแฟนลูกยางไทย หรือแม้กระทั่งนักวอลเลย์บอลคู่แข่งด้วยกันนั่นคือ พรพรรณ เกิดปราชญ์ กัปตันทีมมือเซ็ตที่สร้างสรรค์เกมอันหลากหลายให้กับตบสาวไทยได้เป็นอย่างดี ในวันที่ 13 ก.ค. ตบสาวไทยจะลงสนามพบตุรเคีย เจ้าภาพ และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แน่นอนว่าผู้เล่นชุดนี้จะกลายเป็นตำนานบทใหม่ให้กับวงการวอลเลย์บอลไทยไปอีกนาน!!
แดง ตานี
