ไม่มีแผ่วเลยจริงๆ สำหรับกระแส ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ ที่ล่าสุดไม่ได้จำกัดแต่วงของประชาชนคนกรุงเทพฯ หรือชาวโซเชี่ยลที่ติดตามการไลฟ์สดเท่านั้น

แต่ภายในคณะรัฐมนตรี ก็มีผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มาจากพรรคพลังประชารัฐ

ดังจะเห็นได้จากการออกมา คอมเมนต์อย่างดุเดือด ของ 3 รัฐมนตรี จากพปชร. ไม่ว่าจะเป็นนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

โดยเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปเปรียบเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่ออธิบายความว่าพล.อ.ประยุทธ์นั้น มีความเหนือกว่าเป็นอย่างยิ่ง

นำไปเปรียบเทียบกับผลงานรัฐบาลที่ทำมาตลอด 3 ปี หรือหากรวมตอนรัฐประหารเป็น 8 ปี ว่ามีผลสำเร็จยิ่งกว่าที่นายชัชชาติดำรงตำแหน่งมา 1 เดือน

แถมด้วยการสรุปว่าที่ประชาชนให้ความสนใจต่อนายชัชชาติ เป็นเพราะสื่อปั่นข่าว และนายชัชชาติ ประชาสัมพันธ์เก่ง

กลายเป็นคำถามว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่!??

เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วก็พบว่า มีส่วนข้อเท็จจริงอยู่บ้าง เพราะความ รับรู้ของประชาชนต่อการทำงานของนักการเมือง ส่วนใหญ่ย่อมรับรู้ผ่านสื่อ








Advertisement

ผ่านการบอกเล่า ผ่านการสรุป หรือเรียกได้ว่าผ่านการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ได้รับทราบ รับรู้

แต่เงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่ง ก็คือ ต้องมีผลงาน หรือการกระทำที่เป็นเรื่องจริง เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์ให้ได้

ไม่มีทางที่จะเสกสรรปั้นแต่งเรื่องใดๆ ขึ้นมาจากอากาศ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนรับรู้ได้ ยิ่งเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร เช็กข่าวได้อย่างฉับไว

หากยกตัวอย่าง ก็เหมือนกับว่า มีความพยายามพีอาร์สร้างภาพว่ามีคน ‘เก่ง ฉลาด เลอเลิศ’

แม้อาจทำได้ในช่วงต้น แต่เวลาผ่านไป หากไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริง ความเชื่อของคนก็เสื่อมถอย

จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรตระหนักในการสร้าง ‘ความจริง’ ให้เกิดขึ้น มากกว่าการสร้างภาพหรือพีอาร์เรื่องต่างๆ

ประชาชนเขารู้ได้เองว่าใครของจริง หรือของปลอม!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน