สดจากสนามข่าว - คำสารภาพโจรกางเกงใน ตระเวนลักมือถือร้านดัง อ้างเลียนแบบ‘โรบินฮู้ด’

ออกอาละวาด ตระเวนลักมือถือในร้านดังมาตั้งแต่ต้นปี 2564 ในที่สุดเส้นทาง สายโจรของหนุ่มพิเรนทร์เจ้าของฉายา “โจรกางเกงในตัวเดียว” ก็มีอันสะดุดหยุดสถิติลงด้วยฝีมือยอดนักสืบแห่งสืบภาค 2 และตำรวจ PCT ชุดที่ 5

หลังถูกจับเจ้าตัวก็ยอมเผยเคล็ดลับเรื่องใส่กางเกงในตัวเดียวตอนก่อเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รู้ ส่วนจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ วิชาอาคมล่องหนหายตัว หรือสาเหตุอื่นใด ต้องมาฟัง จากปากของเจ้าตัว

โจรกกน.จนมุม

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ บก.ขส. และชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. (พีซีที) บุกเข้าจับกุม นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือ คาร์มัส อายุ 23 ปี ชาวนราธิวาส ที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งริมถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร” พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อและรุ่นต่างๆ 31 เครื่อง จากนั้นชุดจับกุมคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักในโรงแรมอีกแห่งย่านรามคำแหง ก่อนพบโทรศัพท์มือถือเพิ่มอีก 58 เครื่อง รวมเป็น 89 เครื่อง

พล.ต.ต.ธีรเดชเผยที่มาที่ไปของการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่อง จากเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายก อ.เมือง จ.นครนายก ได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ เสียหายมูลค่า 1,914,895 บาท

ใส่กกน.ตัวเดียวลงมือ

หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบ กล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายแต่งกายเพียงกางเกงในตัวเดียว ก่อเหตุพร้อมตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องเอาไปด้วย และเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุอย่างชำนาญเบี่ยงประเด็นให้เสมือนเป็นคนพื้นที่ แต่เมื่อไล่เช็กกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ ร้านพบว่าแท้จริงคนร้ายมาสำรวจที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงก่อนจะลงมือ

ขณะที่วิเคราะห์แผนประทุษกรรมจากชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. วิเคราะห์แผนฯ คนร้ายคดีนี้มีความเหมือนกับเมื่อ 27 ม.ค.64 ที่ร้าน BANANA สาขาจ.ยะลา, วันที่ 9 ม.ค. ร้าน BANANA สาขาสายไหม 109 ซอยสายไหม กรุงเทพฯ และอีก 9 คดี ในพื้นที่ สภ.เมืองยะลา, สภ.หาดใหญ่, สภ.เมืองพัทลุง, สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สภ.เมืองหนองบัวลำภู, สภ.เมืองอุบลราชธานี, สภ.หัวหิน, สน.สายไหม จนถูกขนานนามว่า “โจรกางเกงในตัวเดียว” ซึ่งยังไม่เคยถูกจับกุม จึงได้รายงานพฤติกรรมแห่งคดีให้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทราบก่อนที่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 จะให้เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

เพียงวันเดียวชุดสืบสวนก็แกะรอยตามไปจนทราบที่กบดานของคนร้ายที่คอนโดฯ ย่านลาดพร้าว ก่อนตามจับกุมตัวได้ในที่สุด สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์ร้าน “BANANA” สาขานครนายกจริง นอกจากนี้ ยังเปิดห้องพักโรงแรมย่านรามคำแหงไว้อีกห้องเพื่อซ่อนโทรศัพท์ ที่ขโมยมา และเตรียมพร้อมหอบของกลางโทรศัพท์ที่ขโมยมาหลายร้อยเครื่องกลับไปยังภูมิลำเนา จ.นราธิวาส

ลักวงจรปิดไปด้วย

จากการสอบสวนนายเจ๊ะอิสมะแอ ผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุที่ขโมยแต่ร้าน BANANA เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลืองจึงขโมยแต่ร้านนี้ และที่ถอดเสื้อผ้าให้เหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเข้าไปขโมยของเพราะมันทำให้ตนเกิดความรู้สึกมั่นใจ รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง

ส่วนที่ขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยนายเจ๊ะอิสมะแอเผยสาเหตุว่า เพราะเมื่อปี 2564 หลังก่อเหตุที่จ.ยะลา ถูกตีข่าวว่าเป็น “โจรกางเกงใน โรคจิต” จึงรู้สึกไม่ชอบใจ เลยขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยทุกครั้ง

ขณะที่การหาร้านที่จะก่อเหตุก็จะค้นในกูเกิ้ลแม็ปหาร้าน BANANA แบบสุ่มตัวอย่างแล้วจะไปละแวกนั้นก่อนก่อเหตุประมาณ 3 ถึง 6 ชั่วโมง สำรวจเส้นทางรอบๆ แล้วค่อยก่อเหตุหลังเที่ยงคืน

ของกลางที่ลักมา

“ที่ผมมุ่งขโมยแต่โทรศัพท์เพราะฝังใจตอนเด็กๆ ที่เพื่อนมีโทรศัพท์ แต่ผมไม่มี จึงเริ่มก่อเหตุโดยแรกๆ ลักขโมยเล็กน้อยจนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนแทบกวาดหมดร้าน โดยเมื่อขโมยมาได้แล้วมักเอาบางส่วนไปขายและเอาเงินไปใช้ และจะนำโทรศัพท์บางส่วนไปแจกให้กับ คนเร่ร่อนละแวกสนามหลวงและหัวลำโพง บางส่วนจะนำไปแจก ให้กับคนที่บ้านเกิดในจ.นราธิวาส โดยจะแจกทั้งเงินและโทรศัพท์ เพราะผมเป็นคนไร้บ้านมาก่อนในลักษณะของจอมโจรโรบินฮู้ด แต่สื่อกลับตั้งฉายาว่าโจรกางเกงในโรคจิต” นายเจ๊ะอิสมะแอกล่าวทิ้งท้าย ด้วยความผิดหวัง ก่อนถูกคุมตัวส่งสภ.เมืองนครนายก ดำเนินคดี

อดิศร จิตตเสวี – เรื่อง/ภาพ