นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการณ์โควิดที่มีแนวโน้มกลับมา ระบาดสูงขึ้น

ยิ่งช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัด เกิดกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา จึงสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการแพร่กระจายของเชื้อ

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาจได้รับเชื้อจากลูกหลานที่เดินทางกลับมาเยี่ยมเยียนภูมิลำเนา หากติดเชื้อแล้วอาจทำให้อาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

ดังนั้น การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันระวังป้องกันตนเอง และคนรอบข้างจึงยังจำเป็นอย่างเข้มงวด

สำหรับแนวโน้มโควิดกลับมาระบาดสูงขึ้น กระทรวงสาธารณสุขระบุมาจากเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ทำให้ภูมิต้านทานที่เคยจัดการกับสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ได้ดี กลับลดลง

จนขณะนี้ทั้ง 2 สายพันธุ์ย่อย เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้ที่เคยป่วยแล้วอาจป่วยซ้ำได้อีกในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งพบการระบาดในโรงเรียนมากขึ้น นำเชื้อไปแพร่ต่อครอบครัวและชุมชน

ที่น่าสังเกตคือ แม้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันตามที่ ศบค.รายงาน จะยังคงประมาณ 2 พันราย เสียชีวิต 20 กว่าราย แต่ผู้ป่วยปอดอักเสบ และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจกลับเพิ่มขึ้น

จึงกังวลว่าสายพันธุ์ดังกล่าว นอกจากแพร่เร็ว ภูมิต้านทานลดลงแล้ว อาจมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

ด้านการรับมือป้องกันนั้น รัฐบาล ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ยังคงขอความร่วมมือจากประชาชน สวมหน้ากากตลอดเวลา ลดการรวมกลุ่ม รักษาระยะห่าง

รวมถึงเชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุก 3-4 เดือน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ผู้สูงอายุ และป่วยเรื้อรัง เพื่อลดความรุนแรงของโรค แต่รัฐบาลเองก็ยังต้องเชิงรุกให้มากกว่านี้ สำหรับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง ที่ไม่สะดวกเดินทางมารับวัคซีนได้

ขณะเดียวกัน เริ่มมีคำถามในเมื่อแนวโน้มการระบาดมากขึ้น แต่การรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันกลับยังทรงตัวสวนทางกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายรายคาดการณ์ผู้ติดเชื้อจริงต่อวันอาจสูงถึง 2-3 หมื่นราย

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องบอกความจริงให้ครบถ้วน ประชาชนจะได้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง เพื่อเพิ่มความระมัดระวังป้องกัน และพร้อมร่วมมือ ตามที่ร้องขอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน