เคยฟาดฝีมือบท ‘แม่หญิงการะเกด’ ในละคร “บุพเพสันนิวาส” จนดังเป็นพลุแตก สำหรับนางเอกสาว ‘เบลล่า’ ราณี แคมเปน คราวนี้มาในชาติภพใหม่กับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ “บุพเพสันนิวาส ๒” ที่ได้ประกบกับพี่หมื่นพระเอกคู่จิ้นคนเดิม ‘โป๊ป’ ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ร่วมด้วย ‘ไอซ์’ พาริส อินทรโกมาลย์สุต

โดยวันนี้นางเอกสาวสุดฮอตได้มาเปิดใจ ถึงบทบาทที่ได้รับ และการร่วมงานกับพระเอกคู่จิ้น พร้อมเรื่องราวความรักที่ตอนนี้ครองสถานะโสด

ถามถึงหนัง “บุพเพสันนิวาส ๒”?

เบลล่า – “เล่าง่ายๆ ว่าเป็นชาติภพใหม่ของพี่หมื่นกับการะเกด หลังจากที่เขารักกันครองคู่จนตายจากกันในสมัยอยุธยา แล้วได้มาเกิดใหม่ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งก็จะเป็นเรื่องราวความรักที่น่าติดตามอีกว่าเอ๊ะ! ที่เขาบอกว่าจะเป็นคู่บุพเพฯ กันไปทุกภพทุกชาติ แต่ชาตินี้มันมีคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องของบุพเพสันนิวาสซึ่งก็คือตัวเบลเอง ที่รับบทเกสร ส่วนพี่โป๊ปหรือภพในหนังก็จะเป็นคนที่คลั่งรัก แต่เราก็แบบไม่เอาไม่ชอบเพ้อเจ้อ รวมถึงจะมีไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราว ในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่น สุนทรภู่ หมอบรัดเลย์ และท่านอาจารย์ปาลเลอกัวซ์ แล้วด้วยตัวเกสรไปสนใจกับผู้ชายอีกคนหนึ่งคือเมธัส ซึ่งเล่นโดยน้องไอซ์ (พาริส) ต้องรอลุ้นกันว่าจะลงเอยยังไง”

เห็นพี่โป๊ปเล่นบทคลั่งรัก แล้วเป็นยังไงบ้าง?

เบลล่า – “เขาคลั่งรักมาก จีบเราทุกรูปแบบ มันดูกลับกันกับในละครใช่ไหมคะ ตอนนั้นจะเป็นเราที่เข้าหา พอตอนนี้เราเป็นฝ่ายนิ่งๆ ใส่เขาแทน ตอนที่เล่นก็จะแบบพี่โป๊ปเติมบท เยอะมาก มีอะไรที่ไม่นัดกันค่อนข้างเยอะ เบลว่าอันนี้คือเสน่ห์ อีกอย่างหนึ่งเลย รวมถึงด้วยคาแร็กเตอร์ของเกสรจะเป็นสาวมั่นหน่อย พอมาเจอคนคลั่งรัก ทำให้เติมเรื่องของโรแมนติกคอมเมดี้เข้าไปได้ค่อนข้างเยอะ”

กลับมาเจอกันอีกครั้งในคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างจากเดิม ยากง่ายยังไง?

เบลล่า – “มันดีค่ะ รู้สึกว่าได้ทำอะไรใหม่ๆ มากขึ้น อย่าง คาแร็กเตอร์มันต้องคีพให้อยู่ในเส้น อย่างพี่โป๊ปจะเล่นเติมได้ แต่ของเราต้องมีความเก๊กขรึม สนุกดีค่ะ แล้วก็ได้ร่วมงานกับ จีดีเอช ด้วย พี่ปิ๊ง (อดิสรณ์) ผู้กำกับฯ ด้วย ประทับใจมาก พี่ปิ๊ง เก่งมาก ทีมงานทุกคนมืออาชีพมากค่ะ”

 

แฟนๆ คาดหวังความจิ้น?

เบลล่า – “มีแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ แต่อาจจะเป็นเคมีใหม่ๆ เพราะด้วยคาแร็กเตอร์ที่มันเปลี่ยนไปก็จะได้ไม่น่าเบื่อ”

แฟชั่นของเกสรในหนัง?

เบลล่า – “นางไม่ธรรมดา นางเป็นสาวมั่น ไม่อยากแต่งตัวเหมือนคนอื่นๆ ด้วยความที่ในยุคนั้นเริ่มมีวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามา แล้วเราสนใจในเรื่องภาษาต่างประเทศเลยมีการมิกซ์แอนด์แมตช์ อันนี้เป็นสิ่งที่ทางหนังตั้งใจจะเติมเลยแหละว่าในตอนที่เป็นละครก็จะเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง พออันนี้ก็จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด”

เกสรมีความเหมือนเบลล่าเยอะไหม?
เบลล่า – “พี่โป๊ปบอกว่าเหมือนในแง่ของความกวน เวลานอกบทพี่โป๊ปจะชอบเล่นมุข เราก็จะแบบอะไรอ่ะ ซึ่งมันตรงกับเกสรมาก แล้วก็บวกกับเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมั่นใจในแนวคิดของตัวเอง”

ร่วมงานกับน้องไอซ์ (พาริส) เป็นอย่างไร?

เบลล่า – “เพิ่งรู้ว่าน้องไอซ์คือเด็กมากเลย (หัวเราะ) แต่น้องดูโตมากเพราะเขามีความตั้งใจ ตอนมากองไม่แตะโทรศัพท์ บทก็ไม่หยิบ เขาทำการบ้านมาอย่างแน่นจากที่บ้านแล้ว เรียกว่าเป็นเด็กที่ตั้งใจมากจนบางทีเราต้อง ละลายพฤติกรรมเขานิดหนึ่ง อยากให้เขารีแล็กซ์ ความจริงแล้วเราเหมือนเป็นรุ่นน้องเนอะ เพราะน้องทำงานกับทีมงานนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่เข้าฉากกัน 3 คนค่อนข้างเยอะ เลยไม่อยากให้เขาเกร็ง”

น้องไอซ์มีเขินเราบ้างไหม?

เบลล่า – “น่าจะแบบอายุเกินแล้วนะ (หัวเราะ) ไม่น่าจะเขิน แต่อาจจะเกร็งในตอนแรกๆ ตอนอยู่กอง คือสงสารน้องมาก อย่างตอนแรกๆ เราจะไม่ค่อยเผยเท่าไหร่เพราะกำลังซีเรียสกับคาแร็กเตอร์อยู่ แต่พอเริ่มเอาอยู่ปุ๊บก็หาอะไรทำ การแกล้งน้องไอซ์คือตัวเลือกนั้นค่ะ”

แล้ว พี่กิ๊ก สุวัจนี ล่ะ?

เบลล่า – “ต้องรอดู เข้าฉากกับพี่กิ๊กมันมาก อันนี้เป็นการทำงานร่วมกับพี่กิ๊กครั้งแรก เป็นเอ็นเนอร์จี้ที่เหลือล้นมากค่ะ ถามว่ามีซีนเบะปากใส่กันไหม ไม่บอก ต้องรอดูค่ะ ตอนที่เราทำไว้ตอนเป็นละคร พี่กิ๊กแบบ…ขอบคุณมากเลย เบลก็บอกไม่ต้องขอบคุณ เลยค่ะ ความจริงแล้วคือเกรงใจด้วยเพราะยืมชื่อพี่กิ๊กมา พี่กิ๊กบอกว่าทำให้คนได้กลับมาพูดถึง แล้วเขาก็เหมือนคิดถึงงานแสดง คราวนี้ก็ได้กลับมาทำการแสดงด้วย เบลเลยได้ ร่วมงานกับต้นฉบับ เรียกว่าตำนานฆ่าไม่ตายค่ะ”

การกลับมาครั้งนี้ในรูปแบบของภาพยนตร์ เรื่องของกระแสต่างๆ มองยังไงบ้าง?

เบลล่า – “ทำเต็มที่แหละค่ะ เบลเชื่อว่าบุพเพสันนิวาสเป็นละครที่หลายๆ คนรักและยังอยู่ในใจ แต่ครั้งนี้มาในรูปแบบภาพยนตร์ซึ่งก็อยากให้ทุกคนลองติดตามดูว่าในเวอร์ชั่นนี้มันจะเป็นยังไงเพราะพวกเราก็ทำกันเต็มที่ในทุกส่วนค่ะ”

คาดหวังรายได้พันล้านไหม?

เบลล่า – “โอ๋ย…สาธุค่ะ เท่าไหร่ก็ได้ แค่ขอให้คนที่จ่ายเงินซื้อตั๋วมาดูได้มีความสุขกลับบ้านแค่นั้นก็พอ”

มูฯหรือยัง?

เบลล่า – “สายมูตรงไหน (หัวเราะ) ที่เห็นไปขึ้นถ้ำมาแล้วอันนั้นเรียกว่าด้วยแรงศรัทธา ไม่ได้หวังผล แต่ถ้าจะมีผลอะไรตอบกลับมา ก็ไม่ติด ถามว่าได้ขอให้หนังเรื่องนี้บ้างไหม เอาตรงๆ ก็ไม่ได้ขอเลย เรารู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ผลจะออกมาเป็นยังไงก็โอเคหมด”

อัพเดตชีวิตหน่อย คนทักสวยแซ่บขึ้นหลังจากโสด?

เบลล่า – “ขอบคุณค่ะ จริงๆ ก็เหมือนเดิม ถ่ายละครและทำงานอื่นๆ งานค่อนข้างแน่น แต่ก็ยังเหลือเวลามาดูแลตัวเองบ้าง ถ้าช่วงที่ทำงานเยอะๆ จะเห็นว่าอาจจะมีเนื้อนิดนึงเพราะเราใช้อาหารเป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงาน (หัวเราะ) แต่ช่วงนี้มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น เฟิร์มขึ้น แต่น้ำหนักไม่ได้ลงเยอะ เน้นออกกำลังกายและ ดูแลเรื่องอาหารที่กำลังพอเหมาะพอดี”

ช่วงนี้ดูเป็นคน ติดบ้าน?

เบลล่า – “อาจเพราะผ่านช่วงโควิดมาด้วย อยู่กับบ้านมากขึ้นเลยมองว่า ความสุขที่แท้จริงมันง่ายๆ อยู่กับครอบครัว นอนตื่นสาย มีวันที่ใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่กับน้องหมาน้องแมวที่บ้าน”

ไม่ใช่สายเซ็กซี่ท้าแดด?

เบลล่า – “ไม่ค่ะ (หัวเราะ) อันนั้นนานๆ ที 5 ปีครั้ง อย่างที่บอกว่ากลายเป็นคนติดบ้านไปแล้ว เวลาจะนัดเจอใครก็มาบ้านฉัน ตรวจเอทีเคซะหน่อย แล้วก็กินข้าวกัน ทุ่มนึงแยกย้ายกลับบ้านอะไรแบบนั้น”

ช่วงพักกายและพักหัวใจไป พร้อมกัน?

เบลล่า – “อยากอยู่นิ่งๆ ตอนนี้รู้สึกว่ามันโอเคไงคะ คือมันมีความสุขกับทุกอย่างที่อยู่รอบข้าง เลยไม่ได้รู้สึกขวนขวายหรือแสวงหาความสุข อื่นๆ อะไร”

เดี๋ยวกระแสหนังมา แฟนๆ ก็จะเชียร์จับคู่พี่โป๊ปอีก?

เบลล่า – “ดีแล้วก็เขาอินหนังไง (หัวเราะ) ส่วนชีวิตจริงก็เชียร์ได้ แล้วแต่ ส่วนจะเชียร์ขึ้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ค่ะ แต่ตอนนี้มันก็ดีแบบนี้ไง ถามว่าเปิดใจต้อนรับพี่โป๊ปบ้างไหม ไม่รู้สิ มันไม่เคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนเลย ตอนนี้สนิทกันแบบนี้มันก็ดีค่ะ”

เห็นกระแสที่คนเชียร์ให้เป็นคู่จริงใช่ไหม?

เบลล่า – “อืม…พี่โป๊ปก็เป็นพี่ที่น่ารักคนหนึ่ง แต่เรายังไม่ได้มองไปในจุดไหน หรือถ้าเป็นอีกแบบหนึ่งจะเป็นยังไง ยังไม่เคยคิดค่ะ ส่วนที่พี่โป๊ปบอกว่าเบลสวยตรงสเป๊ก คือเขาก็ชอบคนสวยไง คนสวยมีเยอะแยะเลย สำหรับตัวเบลเองสบายใจและแฮปปี้แบบนี้ค่ะ”

จะอยู่นิ่งๆ แบบนี้ไปอีกนานไหม?

เบลล่า – “ไม่รู้สิ ก็ได้เรื่อยๆ นะคะ ถามว่ามีคนเข้ามาจีบบ้างไหม มีบ้าง มีคนเข้ามาส่วนใหญ่เป็นคนนอกวงการ แต่เบลรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีเวลา ยังไม่อยากจะให้เวลาไปกับอะไรด้วยมั้ง เลยอยู่อย่างนี้ดีกว่า ถ้าเข้ามาก็คงแบบขอเป็นเพื่อน คือถ้ารุกหนักๆ เบลก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”

สเป๊กล่ะ?

เบลล่า – “รุ่นนี้ไม่น่าจะต้องมีสเป๊กแล้วแหละ เอาแบบเป็นคนดี เป็นคนที่ครอบครัวเราโอเค ตัวเราสบายใจอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ แล้วก็ชอบคนอารมณ์ดี เด็กกว่าหรือโตกว่าไม่ติดเลย แต่ชอบคนที่มีวุฒิภาวะค่ะ”

ถ้าจะเปิดใจกับรักครั้งใหม่ อาจจะต้องคิดเยอะ ระมัดระวังเยอะ หรือมีเงื่อนไขเยอะขึ้นไหม?

เบลล่า – “ถ้าสำหรับเบลรู้สึกว่าเป็นแบบจังหวะที่ใช่เวลาที่ใช่วันที่พร้อม ถ้าจะใช่เดี๋ยวก็ใช่เอง เหมือนรอบุพเพฯ ถามว่าเชื่อเรื่องบุพเพฯไหม เบลรู้สึกว่ามันก็คงต้องมีบ้างแหละ ถ้าคนเราไม่ได้ศีลเสมอกันมันคงไม่ได้มาคุยกันหรือคลิกกันอะไรแบบนั้น เชื่อไหม ก็ไม่ได้รีบร้อนไปไหน ถ้ามีเข้ามาก็โอเคค่ะ”

มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม?

เบลล่า – “อืม…เป็นคำว่าโตขึ้นแล้วกันค่ะ เราก็เหมือนเห็นอะไรมากขึ้นจากเพื่อนๆ และคนรอบข้างเราด้วย มันก็คงจะแบบเป็นความรักที่ต้องเริ่มต้นจากการรักตัวเองก่อน แล้วถึงจะรักคนอื่นได้”

จิรณัฏฐ์ จงประสมมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน