เมื่อวันที่ 16 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศศรีลังกา หลังเดินทางหนีออกจากประเทศไปพำนักยังประเทศสิงคโปร์ ส่งจดหมายลาออกกลับมาที่รัฐสภา โดยมีเลขาธิการรัฐสภาเป็นผู้ประกาศถ้อยคำในจดหมายแก่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่ามกลางสภาวะล้มละลายของชาตินำไปสู่การลุกฮือขับไล่ของประชาชน อดีตประธานาธิบดีราชปักษา กล่าวตัดพ้อในจดหมายว่า ตนบริหารประเทศอย่างสุดความสามารถแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงความพังพินาศทางเศรษฐกิจ แต่การระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 นั้นทำให้ความพยายามของตนไขว้เขว

“ที่ผ่านมานั้นข้าพเจ้าได้อุทิศตนอย่างถึงที่สุดของความสามารถเพื่อประเทศชาติแล้ว ส่วนอนาคตนั้นข้าพเจ้าก็จะยังเดินหน้าทำเพื่อประโยชน์ของชาติต่อไป” และว่า “การที่ข้าพเจ้าสามารถปกป้องรักษาประชาชนชาวศรีลังกาจากภัยร้ายของโรคโควิด-19 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้วและแม้ต้องแลกมาด้วยภาวะวิกฤตปัจจุบัน ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวของข้าพเจ้า”

ถ้อยคำในจดหมายของอดีตประธานาธิบดีราชปักษา ก่อให้เกิดคำถามว่าอดีตผู้นำศรีลังกาจะยังเดินหน้ามี ส่วนร่วมทางการเมืองจากสิงคโปร์หรือไม่ ส่วนความ ภาคภูมิใจที่อดีตประธานาธิบดีราชปักษาระบุถึงนั้นรายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 สะสม 16,500 นาย ติดเชื้อสะสม 660,000 คน จากประชากรทั้งหมด 22 ล้านคน โดยอดีตประธานาธิบดีราชปักษาปฏิเสธที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงแรกของการระบาด พร้อมบอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่า “อย่าตื่นตูม”

หนึ่งในคณะรัฐมนตรีขณะนั้นยังเคยกล่าวไว้ว่าศรีลังกาไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อวัคซีนป้องกันและยาต้านไวรัสจากต่างชาติ เพราะเพียงแค่คุณไสยและนักอาคมก็มากเกินพอแล้ว ส่วนอดีตประธานาธิบดีราชปักษาอ้างด้วยว่า กองทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของศรีลังกานั้นเหลือน้อยตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพ.ย. 2562

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน