การยางแห่งประเทศไทย ระบุเก็บเงินเซส 6 เดือนได้ 6,558 ล้านบาท จับตากติกาตลาดโลกเปลี่ยนยักษ์ใหญ่ผู้ผลิต อย่างสหรัฐอเมริกาและจีนชะลอนำเข้า ผลจากเบรกความร้อนแรงเศรษฐกิจ

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) กยท.มีการเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออก (เงินเซส) ได้ประมาณ 6,558 ล้านบาท ใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปี 2564 เก็บเงินเซสได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท คาดว่าตลอดปี 2565 จะสามารถเก็บเงินเซส จากการส่งออกยางพาราได้ประมาณ 8,442 ล้านบาท จากการส่งออกยางพาราใกล้เคียงปีก่อนหน้า ส่วนราคาในประเทศคาดว่าจะทรงตัวในระดับที่เกษตรกรรับได้แน่นอน

“ราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามกลไกตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง เพราะก่อนหน้านี้ราคายางพาราไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น การลดลงถือเป็นการปรับฐาน แต่การปรับตัวลดลงขอให้เกษตรกรชาวสวนอย่ากังวล เพราะจากปริมาณยางผลผลิตของไทยที่ลดลงประมาณ 4.8-5.2% จากผลผลิตปีก่อนที่มีประมาณ 4.9 ล้านตัน และความต้องการยางพารายังมีในตลาดโลก จะไม่มีทางเห็นราคา 3 กิโลกรัม 100 บาทอย่างที่หลายคนกังวลแน่นอน”

นายณกรณ์กล่าวว่า กยท.ประเมินสถานการณ์ราคายางพาราทุก 3 เดือน หลังสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ส่งผลกระทบโดยตรงกับราคายางพาราในไทย ราคาน้ำมันและราคายางพาราไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เหมือนในอดีตที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ราคายางพาราจะเพิ่มขึ้นตาม เพราะราคายางจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับความต้องการในตลาดโลก ความต้องการของประเทศ ผู้บริโภคอย่างสหรัฐอเมริกา และจีน

ทั้งนี้ กยท.กังวลกับสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และจีน ที่เป็นประเทศผู้ซื้อยางพารารายใหญ่ของโลก ขณะนี้รัฐบาลอเมริกาอยู่ระหว่างการเบรกความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยการขึ้นดอกเบี้ยทำให้การบริโภคอาจลดลง กระทบต่อการบริโภคในประเทศ ส่งผลให้ลดกำลังการผลิต และอาจลดการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิต ไม่ต่างอะไรกับจีน ดังนั้น ต้องจับตาเศรษฐกิจประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกต่อไป

“การปรับลดลงของราคาตามราคาในตลาดโลก เกิดจากความต้องการในตลาดโลกลดลง ซึ่งยางพาราไทย ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน เหมือนในตลอด 20 ปี เพราะขณะนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ที่ผลิตวัตถุดิบแทนยางสังเคราะห์และยางพาราได้แล้ว ความต้องการของประเทศผู้บริโภคอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน เงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลให้ไทยได้รับเงินจากการส่งออกเป็นสกุลเงินบาทมากขึ้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน