ออมสินสั่งตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ยาวนานช่วยลูกค้า ลุ้น กนง. ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย-โชว์ผลดำเนินงาน 2 ปี ช่วยคนไทยแล้ว 13 ล้านราย ลุยสินเชื่อขายฝากที่ดิน คาดกำไรทั้งปี 2.9 หมื่นล้านบาท

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ออมสินในฐานะธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ จะพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อให้นานที่สุด เพื่อให้ผู้กู้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

“ธนาคารทำประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นไว้แล้ว ซึ่งมีหลายแนวทางคงต้องรอความชัดเจนจาก กนง. ว่าจะพิจารณาอย่างไร เช่น จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งเดียว 0.50% ภายในปีนี้ หรือจะยังไม่ขึ้นเดือนส.ค. แต่ไปปรับขึ้นครั้งต่อไป หรือจะทยอยปรับขึ้นทีละ 0.25% ทุกครั้ง ก็จะเห็นภาพว่า ธนาคารจะตรึงดอกเบี้ยช่วยเหลือประชาชนได้นานแค่ไหน”

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าใหม่ ขณะที่ลูกค้าเดิม เช่น สินเชื่อบ้าน ที่แม้จะไม่ได้รับผลกระทบทางตรงจากดอกเบี้ย แต่ก็จะได้รับผล กระทบในทางอ้อมที่ทำให้การหักเงินต้นลดลง และใช้เวลาผ่อนชำระนานขึ้น ในขณะที่ผู้ฝากเงิน จะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น

นายวิทัยกล่าวถึงผลการดำเนินงานช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ว่า ได้ช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ รวม 45 โครงการ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 13 ล้านราย ส่วนผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อกว่า 195,000 ล้านบาท รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานหรือขาดรายได้ ให้สามารถกลับมามีอาชีพกว่า 100,000 ราย และปรับโครงสร้างหนี้ NPLs อีก 4 ล้านราย

นายวิทัยกล่าวว่า เดือนต.ค.นี้ ธนาคารจะเริ่มเปิดให้บริการสินเชื่อที่ดินและขายฝาก โดยตั้งบริษัทร่วมทุนมาดำเนินการ อนุมัติสินเชื่อ Digital Lending โดยใช้ Alternative Data เริ่มโครงการต้นแบบในเดือนพ.ย. 2565 รวมถึงเร่งรัดการช่วยเหลือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านโครงการสร้างงานสร้างอาชีพ ตั้งเป้าช่วยผู้เดือดร้อนได้ถึง 200,000 รายภายในสิ้นปี

สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ (ณ 30 มิ.ย. 2565) 15,831 ล้านบาท คาดการณ์ ทั้งปี 29,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน และควบคุมการเบิกจ่ายจากปี 2564 มีการตั้งงบไว้ที่ 34,956 ล้านบาท ลดลงจากในปี 2562 ถึง 7,370 ล้านบาท และควบคุมการเบิกจ่ายงบปี 2564 เหลือ 28,251 ล้านบาท จากในปี 2563 ที่ 29,990 ล้านบาท และในปี 2562 ที่ 31,855 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน