วันที่ 20 ก.ค. นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรค สร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวว่า จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พาดพิงถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุเคยเป็นคนติดตามและหวัง จะเคลมผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรค อีกทั้งหมอดูเคยทักโหงวเฮ้งจะได้เป็นนายกฯ แต่พอพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลก็ได้เป็นแค่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังนั้น ขอชี้แจงว่าหลายนโยบายของพรรคไทยรักไทยถือเป็นนโยบายที่ดีและมีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถจากหลากหลายวิชาชีพ เข้ามาช่วยกันระดมสมอง จนเกิดเป็นนโยบายต่างๆ ขึ้นมาได้ และตัวนายทักษิณก็เป็นผู้นำในการนำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อนำมาเปลี่ยนแปลงประเทศในขณะนั้นได้จริง
“นายสมคิดยังเคารพนับถือคุณทักษิณไม่เปลี่ยนแปลง และการที่ นายสมคิดเข้าไปช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม นั้น เป็นเพราะมองเห็นปัญหาของบ้านเมืองที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต จึงเข้าไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง โครงสร้างทางการเมืองและแนวทางในการทำงานร่วมกันเปลี่ยนไป จึงต้องขอถอยออกมา” นายพงศ์พรหมกล่าว
รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นอีกครั้ง พรรคสร้างอนาคตไทย จึงมองเห็นว่า นายสมคิดมีความสามารถในการเข้ามาเป็นแกนนำหลัก ในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ และปรับโครงสร้างการเมือง เพื่อลดความขัดแย้ง และเป้าหมายให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงได้เสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค
“สำหรับคำทำนายของซินแสที่นายทักษิณได้กล่าวถึง อาจจะดูได้ถูกต้อง เพียงแต่ผิดที่ผิดเวลา ไม่ใช่ ณ เวลานั้น แต่เป็นเวลา ณ ปัจจุบัน นายสมคิดจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามคำทำนายของซินแส” นายพงศ์พรหมกล่าว
