เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และจังหวัดราชบุรี เปิดตัวโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ด้วย “ราชบุรีโมเดล” จังหวัดต้นแบบ มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษา รวมพลังคนไทยเพื่อเด็กหลุดจากการศึกษาเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปี โดยจัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการที่โรงเรียนวัดดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่าจังหวัดราชบุรียินดีอย่างยิ่งที่ แสนสิริและกสศ. พิจารณาเห็นว่าพื้นที่จังหวัดราชบุรีมีศักยภาพและเหมาะสม ในการเป็นพื้นที่นำร่องโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการนี้จะเริ่มวางรากฐานที่จ.ราชบุรี ก่อนใน 3 ปีแรก จากนั้นจะต่อยอดอย่างยั่งยืนต่อไป

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่าหลังจากการทำงานเพื่อเรียนรู้บริบทและสถานการณ์ในพื้นที่จริง พร้อมทั้งสร้าง เครือข่ายภาคีการทำงานระยะยาวผ่านการออกแบบกลไกการจัดการเชิงพื้นที่ (Area-based) ในช่วงครึ่งปีแรกโดยประสานความร่วมมือ “3 อาสา จังหวัดราชบุรี” ได้แก่ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี (อพม.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครด้านการศึกษา ร่วมดูแลฟื้นฟูเด็กๆ ในด้านสุขภาพ สภาวะทางครอบครัว สังคม และด้านการศึกษาครบทุกมิติครั้งแรกของเมืองไทย เรายังผนึกกำลังร่วมกับกลไกจังหวัด จัดตั้งคณะกรรมการจัดการศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจังหวัดราชบุรี และคณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือเด็กวิกฤต และคณะทำงานในพื้นที่ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด เขตพื้นที่ หน่วยงานการศึกษา สถานศึกษา ผู้อำนวยการและครู อาสาสมัครการศึกษา ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ลงลึกถึงปัญหา สร้างความเข้าใจและทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาใน จ.ราชบุรี อย่างยั่งยืน เพื่อให้ความเสมอภาคทางการ ศึกษามีแนวทางและกลไกการพัฒนาในจังหวัดดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนใน ระยะยาว

“ในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 1/2565 เราเข้าช่วยเหลือเด็กนักเรียนกลุ่มช่วงชั้นรอยต่อระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน จ.ราชบุรี ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 รวมกว่า 700 คน ผ่านการมอบทุนการศึกษารวมมูลค่า 1,100,000 บาท ภายใต้โครงการ Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้เด็กและครอบครัว เป็นการป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยมาตรการเชิงป้องกันที่ต้นทาง หลังจากนี้เรามีแผนนำจังหวัดอื่นๆ มาศึกษาโมเดลนี้ และนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยให้เด็กไม่หลุดจากระบบการศึกษาต่อไป” ผู้จัดการกสศ.กล่าว

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในแต่ละปีมีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก จึงอยากช่วยให้เด็กกลับเข้าระบบการศึกษา โดยบริจาคเงิน 100 ล้านบาท จัดทำโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” อยากให้บริษัทเอกชนซึ่งมีอยู่จำนวนมากหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะธุรกิจของเราจะขับเคลื่อนไม่ได้เลยถ้าเราไม่มีแรงงานที่มีคุณภาพ การแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาคือจุดเริ่มต้น เราจะทำอย่างไรให้เด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

“ที่ผ่านมาเราให้ความสนใจเยาวชนมาตลอด แสนสิริเคยสนับสนุนยูนิเซฟ ตอนนี้เราอยากทำโครงการของเราเอง จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นโดยมีงบ 100 ล้านบาท และเลือกจ.ราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพราะต้องการให้พนักงานมีส่วนร่วมในโครงการ และที่สำคัญที่สุดต้องเป็นจังหวัดที่ไม่มีโครงการธุรกิจ ของแสนสิริ เพื่อไม่ให้มองว่าเราทำเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัท” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า ตั้งเป้าลดจำนวนเด็กในช่วงวัยภาคบังคับ (ป.1-ม.3) ใน จ.ราชบุรี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้เหลือศูนย์ ด้วยการช่วยเหลือทั้งตัวเด็กเอง รวมทั้งสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ Zero Dropout เด็ก ทุกคนต้องได้เรียน จะสร้างแรงกระเพื่อมให้คนไทย ภาครัฐและภาคส่วนอื่นๆ ลุกขึ้นมาช่วยเหลือเด็กทั้งประเทศไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา พร้อมสร้างรากฐานสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความเสมอภาค เพื่อลดความ เหลื่อมล้ำให้กับประเทศ ให้การศึกษาและเด็กไทยอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน