ปฏิบัติการ “กราบ” ของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เบื้องหน้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ธรรมดา

ไม่ธรรมดาเพราะเป็นการกราบ ณ แทบเท้า ดำเนินไปอย่างที่ปรากฏผ่านสำนวนโบราณที่ใช้กันว่า “หมอบราบคาบแก้ว”

จึงกลายเป็น “ไวรัล” เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์”

ไม่เพียงแต่สังคมจะมองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากแต่ให้ความสนใจไปยัง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เป็นอย่างสูง

ตั้งแต่เมื่ออยู่ไทยรักไทย พลังประชาชน

อย่าได้แปลกใจหากจะมีการเผยแพร่ “คลิป” สะท้อนภาพการหลั่งน้ำตาออกมา

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นการหลั่งและกรีด น้ำตาป้อยๆ ของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ระหว่างการให้สัมภาษณ์ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร

หลั่งน้ำตาเพราะไม่ได้เดินทางไปหา “นาย”

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็น “นาย” ที่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพำนักอยู่ที่มหานครดูไบตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

“นาย” ของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก จึงเป็นคนละ “นาย” กับวันนี้

ภาพ “หลั่งน้ำตา” เมื่อมาบรรจบกับภาพ “ก้มลงกราบ” ณ แทบเท้าจึงมีความแหลมคม

เป็นความแหลมคมซึ่งไม่เพียงแต่ “นาย” ของ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก แปรเปลี่ยนจากชื่อ “ทักษิณ” มาเป็น “ประวิตร” เท่านั้น

หากแต่ยังสะท้อนถึง “ความจัดเจน” เป็นอย่างสูง

เป็นความจัดเจนในฐานะของดาราและของ “นักแสดง” ที่พร้อมจะเข้าถึงในแต่ละบทบาทอย่างเนียนนุ่มชวนให้เกิดความประทับใจ

ประทับใจ “นักแสดง” ที่ผันมาเป็น “นักการเมือง”

หากไม่มีภาพ “ก้มลงกราบ” ก็คงไม่มีการปล่อยคลิป “หลั่งน้ำตา” ออกมาให้ปรากฏ

นี่มิได้เป็นเรื่องของการยืนยันในรากฐานแห่งการเป็น “นักแสดง” เท่านั้น หากแต่ยังก่อให้เกิดภาพของ “นักการเมือง” เด่นชัดขึ้นมา

แท้จริงแล้ว นักการเมือง กับ นักแสดง ก็ใกล้เคียงกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน