มีโอกาสได้จับเข่าพูดคุยกับผู้บริหารหนุ่ม ‘วัลลภ ตรีฤกษ์งาม’ รองประธานกรรมการบริหาร ค่ายรถยนต์ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย มันสมองหลักในการวางกลยุทธ์การตลาด ที่ทำให้ซูซูกิดังเป็นพลุแตก จนถึงทุกวันนี้

ภาพรวมตลาดรถยนต์
ดูจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เริ่มคลี่คลาย อีกทั้งผู้บริโภคไม่ได้กังวลเรื่องราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเหมือนในอดีตที่ทำให้มีการชะลอตัวไปบ้างเล็กน้อย ส่งผลดีต่อตลาด แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่เข้ามากระทบทั้งเรื่องความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่เริ่มเห็นมากขึ้น รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น แต่มองว่ายอดขายรถยนต์ตลาดรวมจะเติบโตกว่าปีที่แล้วอยู่ที่ 850,000 คัน อย่างไรก็ตาม หากปัญหาเซมิคอนดักเตอร์หมดไป มีโอกาสได้เห็นตัวเลข 880,000 คัน ภายในสิ้นปีนี้

อีโคคาร์ยังเป็นดาวเด่น
ต้องยอมรับว่าวันนี้ตลาดรถยนต์มีทางเลือกเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่รถยนต์อีโคคาร์ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ได้จริง ในราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์สาธารณะ จึงมองหารถยนต์ส่วนตัว นำไปใช้งานจริงๆ แต่ต้องไม่กระทบกับเงินในกระเป๋ามากจนเกินไป สอดคล้องกับการสำรวจที่พบว่าผู้ใช้อีโคคาร์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อไปเพื่อใช้งาน เน้นที่ฟังก์ชันมากกว่าแฟชั่น อีกทั้งประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างมากในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหนุ่ม-สาววัยเริ่มทำงาน หรือผู้ปกครองที่ซื้อไว้รับ-ส่งบุตรหลานไปโรงเรียน

กลยุทธ์การตลาดของซูซูกิ
เราอาจจะไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในเร็วๆ นี้ แต่ได้วางกลยุทธ์ด้วยการมองหาลูกค้ากลุ่มที่ชื่นชอบคาแร็กเตอร์รถยนต์ซูซูกิแต่ละรุ่น เพื่อนำเสนอให้ตรงกับความต้องการและกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งปรับปรุงรถยนต์รุ่นที่ทำตลาดอยู่ปัจจุบันให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่งหน้าทาปาก สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงความคุ้มค่า เช่นที่ผ่านมามี ซูซูกิ สวิฟต์ จีแอล พลัส และซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 รุ่นปรับปรุง ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มค่อนข้างมาก เพราะปรับราคาขึ้นเล็กน้อย แต่ใส่อุปกรณ์ที่มีมูลค่าสูงกว่าค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ โปรโมชั่นให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เช่น ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญพิเศษ เลือกขับฟรีสูงสุด 150 วัน หรือบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในเดือนส.ค.นี้

สำหรับยอดขายของซูซูกิ ครึ่งปีแรก ผ่านมามียอดขายรวม 11,267 คัน เติบโต 5.84% มั่นใจว่าครึ่งหลัง เมื่อปัญหาเรื่อง เซมิคอนดักเตอร์คลี่คลาย

อัตราเติบโตของยอดขายสูงขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน