ร้อนแรงขึ้นโดยลำดับ สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะอยู่ต่อหรือต้องพอแค่นี้
พล.อ.ประยุทธ์ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรค 4 บัญญัติว่านายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้ว เกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง
ถ้าตีความตามมาตรานี้ ก็แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะครบกำหนด 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565
แต่ยังมีข้อถกเถียงว่าจะต้องไม่นับ เวลาช่วงก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พลั้งปากพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีเวลาต่ออีก 2 ปี
ซึ่งหลายฝ่ายชี้ว่าเป็นสัญญาณว่าให้นับหลังจากรัฐธรรมนูญบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ มีหลักฐานบันทึกการประชุม คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 ณ วันที่ 7 ก.ย. 2561 ประชุมกันที่อาคารรัฐสภา 2 มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรรมการ และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง และกรรมการคนอื่นๆ รวม 30 คน
มีความเห็นของประธานกรรมการและรองประธานคนที่ 1 ดังนี้
ประธานกรรมการ ถามที่ประชุมว่า ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ สามารถนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เข้ากับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่
นายสุพจน์ รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง ตอบว่า หากนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว รวมเข้ากับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย
จากนั้น ประธานกรรมการกล่าวว่า เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา 264 วรรคหนึ่ง ทำให้แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับ ก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าว รวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง โดยวาระ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี
ถ้ายึดตามนี้ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ในการร่าง รธน.ฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปต่อลำบาก
แต่ก็ศรีธนญชัยทั้งหลายอ้างว่าเป็นแค่บันทึกการประชุมเท่านั้น
จะดันบิ๊กตู่ให้ไปต่อให้ได้!!!
